นักดำน้ำหลายคนมีปัญหาใช้อากาศเปลืองเวลาดำน้ำ ทำให้ต้องขึ้นก่อนคนอื่น หรือทำให้ทั้งกลุ่มต้องขึ้นก่อนเวลาเพราะตัวเองอากาศหมดก่อน เทคนิคต่อไปนี้จะช่วยให้เพื่อนๆ ใช้อากาศได้ดีขึ้นในคราวถัดไป
Buoyancy
มีส่วนสำคัญในการทำให้นักดำน้ำใช้อากาศได้ดีขึ้น เมื่อนักดำน้ำลงไปสู่ความลึกและพร้อมจะว่ายน้ำไปให้ปรับการลอยตัวเป็นกลางให้ได้ก่อนด้วยการลอยอยู่นิ่งๆ และเติม/ ปล่อยลมในบีซีดีจนกว่าเมื่อหายใจเข้าตัวลอยขึ้นเล็กน้อย หายใจออกตัวจมลงมาที่เดิม อีกทั้งต้องคอยปรับอยู่ตลอดทุกความลึกที่เปลี่ยนไปเพื่อให้แน่ใจว่ามีการลอยตัวเป็นกลางตลอดเวลา ซึ่งจะใช้แรงน้อยที่สุดส่งผลให้ไม่เหนื่อยและประหยัดอากาศ
การหายใจ
นักดำน้ำควรหายใจช้าๆ เบาๆ และยาวๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้หายใจเข้าและออกเท่าๆ กัน การหายใจสั้นจะเป็นการกระชากอากาศจากเร็กกูเลเตอร์ทำให้สิ้นเปลืองอากาศ การพยายามกลั้นหายใจเพื่อควบคุมการลอยตัวจะทำให้คาร์บอนไดออกไซด์สะสมในร่างกายส่งผลให้ปวดหัว หรือการพยายามใช้อากาศให้น้อยที่สุดด้วยการหายใจเข้าสั้นๆ จะกลายเป็นทำให้นักดำน้ำรู้สึกเหมือนขาดอากาศและหายใจเช้าแรงในครั้งถัดไปซึ่งเปลืองอากาศอยู่ดี
การเคลื่อนที่ใต้น้ำ
น้ำมีความหนาแน่นกว่าอากาศหลายร้อยเท่าทำให้เมื่อนักดำน้ำต้องการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ใต้น้ำจะใช้พลังงานมากกว่าเดิม 3 – 4 เท่า ดังนั้นนักดำน้ำควรเคลื่อนไหวร่างกายที่ใต้น้ำอย่างช้าๆ และตั้งใจ พยายามทำเหมือน slow motion ยิ่งดี (แบบหนังเรื่อง matrix) ควรตีฟินแล้วปล่อยให้แรงผลักพาตัวเราไหลไปข้างหน้าสักเล็กน้อยก่อนจะตีฟินครั้งถัดไป (ตีฟินท่ากบจะเหมาะมาก)
ทำให้ร่างกายอบอุ่น
ความหนาวจะทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการหายใจเร็วขึ้นเพื่อนำอ๊อกซิเจนไปเผาผลาญให้เกิดความอบอุ่นในร่างกาย อีกทั้งอาการหนาวสั่นจะทำให้นักดำน้ำควบคุมลมหายใจให้ช้า ๆ ได้ยาก ส่งผลให้ใช้อากาศมากกว่าปกติ นักดำน้ำควรใส่ชุดดำน้ำให้เหมาะกับความเย็นของน้ำในจุดที่จะดำ หากไม่แน่ใจให้โน้มเอียงไปทางที่อุ่นดีกว่าหนาว ใครที่หนาวง่ายให้ใส่ฮู๊ดดำน้ำจะช่วยได้มาก
ฝึกฝน
การหมั่นฝึกฝนการดำน้ำ การปรับการลอยตัว การหายใจอย่างมีประสิทธิภาพ การตีฟิน การขยับร่างกายช้า ๆ ทั้งหมดนี้จะทำให้เรามีความชำนาญมากขึ้นส่งผลให้เกิดการผ่อนคลาย ซึ่งมีส่วนช่วยในการประหยัดอากาศอีกด้วย
ครูแสน แสนยา โลหิตนาวี
22 มกราคม 2562
บทความจาก Facebook: Innovative Divers