Neoprene, Elastane, Yamamoto, Geoprene, Yulex – เรื่องของวัสดุผลิตเว็ทสูท

บอกเล่าเรื่องราวของวัสดุประเภทต่างๆ ที่ใช้ผลิตเว็ทสูท ทั้งความเป็นมา คุณสมบัติ และผู้ผลิต เพื่อเป็นข้อมูลให้คุณเลือกซื้อเว็ทสูทได้ตรงใจ

อ่าน Neoprene, Elastane, Yamamoto, Geoprene, Yulex – เรื่องของวัสดุผลิตเว็ทสูท

เว็ทสูท (Wetsuit) ตัวแรก เลือกยังไงดีนะ

เว็ทสูทเป็นอุปกรณ์ดำน้ำชิ้นหนึ่งที่มีประโยชน์มากในการรักษาพลังงานของร่างกายไว้ให้เราทำกิจกรรมใต้น้ำได้นาน ช่วยรักษาสุขภาพของเรา ลดโอกาสเกิดความเจ็บป่วยจากการสูญเสียความร้อนในร่างกายด้วย ด้วยความที่เป็นสินค้าที่มีราคาเริ่มต้นไม่สูงนัก แต่เป็นสิ่งที่ต้องใช้ติดกับเนื้อตัวเราโดยตรง นักดำน้ำที่เริ่มดำน้ำจริงจังแล้วส่วนใหญ่จึงมักจะหาซื้อเว็ทสูทดำน้ำไว้เป็นของส่วนตัวมากกว่าจะเช่าจากร้านดำน้ำ บางคนก็มีเป็นของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นเรียนดำน้ำกันเลยทีเดียว มาดูกันดีกว่าว่า มีปัจจัยอะไรบ้างที่เราควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อเว็ทสูทตัวแรกของเรา 1. เริ่มจาก อุณหภูมิน้ำ และความขี้หนาวขี้ร้อนของเรา ลองดูว่า ปกติเราน่าจะไปดำน้ำแถบไหนบ้าง แล้วน้ำทะเลแถวนั้นมีอุณหภูมิประมาณเท่าไหร่ อย่างในบ้านเราน้ำทะเลมีอุณหภูมิระหว่าง 28-30 °c บางปีร้อนหน่อยก็ถึง 31 °c แต่น้อยปีที่จะมีน้ำเย็นเข้ามาจนทำให้ลดต่ำกว่า 27 °c มาก สำหรับอุณหภูมิน้ำระดับนี้ คนที่ไม่ขี้หนาวอาจใช้เว็ทสูทความหนาประมาณ 1-1.5 ม.ม. (ซึ่งมักจะเรียกว่า skin suit ให้รู้กันไปเลยว่า บางจริงๆ นะ) ก็ได้ หรือคนที่ขี้ร้อนอาจใช้แค่ rashguard ก็เพียงพอ (ชาวเมืองประเทศหนาว มาดำน้ำบ้านเรา ใส่แค่ชุดว่ายน้ำหรือชุดบิกินี่ก็แฮปปี้แล้ว) นอกจากนี้ บางคนที่ไม่ขี้หนาวอาจเลือกใช้เว็ทสูทแบบแขนสั้นขาสั้น แทนเว็ทสูทแบบเต็มตัว ก็ได้ อย่างน้อยก็ช่วยให้ความอบอุ่นบริเวณท้องและหน้าอกซึ่งเป็นส่วนแกนกลางของลำตัว มีอวัยวะภายในหลายอย่างที่ไม่ควรให้สูญเสียความร้อนไป แต่สำหรับคนไทยทั่วไป เว็ทสูทความหนา 2-3 ม.ม. เป็นขนาดมาตรฐานที่เหมาะกับการดำน้ำในอุณหภูมิระดับนี้ และบางคนที่ขี้หนาวมาก อาจใช้เว็ทสูทแบบผสม 3/5 (หรือ 5/3 คือเพิ่มความหนาช่วงท้องและอกเป็น 5 ม.ม.) เลยก็ได้ รวมถึงคนขี้ร้อนก็อาจใช้แบบ 2/3 (หรือ 3/2 แล้วแต่จะเรียก) ต่อจากนั้น ถ้าเห็นว่าเราน่าจะไปดำน้ำที่น้ำเย็นกว่านี้ เช่น แถบบาหลี หรือ ฟิลิปปินส์ ที่อุณหภูมิน้ำอยู่ระหว่าง 25-28 °c เพิ่มความหนาเว็ทสูทเข้าไปอีก 2-3 ม.ม. จากที่เล่าไปข้างต้นนี้ ก็จะเหมาะสมกับการใช้งานได้พอดี   2. เลือกคุณสมบัติวัสดุ และวิธีการตัดเย็บ แม้เว็ทสูทจะทำจากนีโอพรีนเป็นหลักเหมือนๆ กัน แต่เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำเว็ทสูทเพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง ทำให้ได้เว็ทสูทนีโอพรีนที่ดูเหมือนกัน แต่ไม่เหมือนกัน จะขอยกมาเล่าไว้ 2-3 อย่างที่สำคัญๆ ก่อน แล้วไว้ถ้ามีเวลาจะมาเล่าให้ฟังเพิ่มอีก หมายเหตุ แผ่นยางนีโอพรีนมีความยืดหยุ่นดี แต่ก็มีโอกาสฉีกขาดได้หากถูกดึงแรงๆ จึงมีการปิดผิว 2 ด้านด้วยผ้าชนิดต่างๆ ในที่นี้จะขอเรียกว่า “ผ้านีโอพรีน” เพื่อหมายถึงแผ่นยางนีโอพรีนที่ปิดผิวด้วยผ้าแล้ว ความหนาแน่นของเนื้อนีโอพรีน – แน่นกว่า ทนทานกว่า จากข้อแรก เราเลือกเว็ทสูทโดยดูความหนาของนีโอพรีนเป็นหลัก แต่นีโอพรีนหนาเท่ากัน อาจมีความหนาแน่นของเนื้อยางไม่เท่ากันก็ได้ และสำหรับเว็ทสูทดำน้ำลึกซึ่งใช้งานภายใต้ความกดดันมากกว่าปกตินั้น เมื่อใช้ไปนานๆ เนื้อนีโอพรีนก็จะยุบตัวลงเรื่อยๆ ซึ่งเท่ากับบางลงเรื่อยๆ นั่นเอง และความสามารถในการป้องกันการสูญเสียความร้อนก็จะลดลงตามไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นความหนาแน่นของนีโอพรีนที่ใช้จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่กำหนดอายุการใช้งานของเว็ทสูทด้วย…

อ่าน เว็ทสูท (Wetsuit) ตัวแรก เลือกยังไงดีนะ

Wetsuit Freedive เเตกต่างจาก Scuba อย่างไร

ทำไมเราใช้ wetsuit freedive ? เวลาที่เราแช่น้ำนานๆ ร่างกายจะสูญเสียความร้อนออกไปเรื่อยๆ เนื่องจากการถ่ายเทอุณหภูมิในน้ำมีมากกว่า เวลาที่เราอยู่บนบกถึง 25 เท่า ถ้าเราต้องอยู่ในน้ำเป็นเวลานานๆ wetsuit จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันเราจากความหนาวเย็นจนเป็นไข้ และเป็น อุปกรณ์ freedive ทำให้สามารถฝึกฝนได้อย่างสบายมากขึ้น ข้อเเตกต่างระหว่าง Wetsuit Freedive กับ Scuba หลายคนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมคนฝึก freedive ไม่นิยมใช้ wetsuit scuba เหตุผลก็เนื่องมาจาก ชุดของ scuba จะออกแบบมาให้น้ำสามารถซึมเข้าไปขังอยู่ในชุดได้ กลายเป็นชั้นแบ่งระหว่างร่างกาย กับชุด เมื่อคนดำ scuba เคลื่อนไหวร่างกายมากๆ ร่างกายจะสร้างความร้อนขึ้นมา และเก็บความร้อนไว้ในชุดได้ แต่คนฝึก freedive หรือ spearfishing ไม่ต้องการเคลื่อนไหวร่างกายมาก เพื่อทำให้ร่างกายใช้ออกซิเจนให้น้อยที่สุด มักลอยอยู่นิ่งๆ ใช้เวลาในกการหายใจ เพื่อเตรียมตัวดำลงไปใต้น้ำ ดังนั้นหากใช้ wetsuit ของ scuba ก็จะไม่ช่วยในเรื่องของอุณหภูมิ และความยืดหยุ่นของชุด scuba จะน้อยกว่าชุดสำหรับ ฟรีไดฟ์ ทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวกเท่าที่ควร วัตถุประสงค์การใช้งานของ Wetsuit สำหรับ Freedive การเลือกใช้งานจะขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อมในการดำน้ำ เช่น ระยะเวลาที่อยู่ในน้ำ อุณหภูมิของน้ำ ยิ่งอุณหภูมิของน้ำต่ำเท่าไหร่ ความหนาของชุดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยปกติ ชุดจะแบ่งเป็นสองส่วน คือ ส่วนบนของร่างกาย และ hood กับ ส่วนของกางเกง วัสดุที่ใช้ในการทำชุดจะ ทำมาจาก neoprene แบ่งออกหลักๆได้ 3 ชนิด Double-lining: ทำมาจาก neoprene หุ้มด้วยไนลอนทั้งสองด้าน ด้านในและด้านนอกชุด ข้อดีคือ ราคาถูกกว่าแบบอื่น และมีความทนทาน ง่ายต่อการดูแลรักษา สะดวกเวลาใส่และถอดออก แต่ก็มีข้อเสียคือ น้ำซึมเข้าไปได้ง่าย และชุดต้านน้ำ กว่าแบบอื่น Single-lining: หรือเรียก อีกอย่างหนึ่งว่าแบบ open-cell มีไนลอนเพียงด้านเดียว ด้านที่สัมผัสร่างกายจะไม่มีไนลอน ทำให้neoprene แนบกับผิวหนังได้สนิท มีข้อดีคือ น้ำจะไม่เข้าไปในชุด เหมาะสำหรับ spearfishing และใส่ฝึกซ้อม freedive เนื่องจากชุดจะมีความ ทนทานกว่าแบบ no lining ข้อเสีย คือ ชุดต้านน้ำและไม่ยืดหยุ่น เท่าชุดแบบ…

อ่าน Wetsuit Freedive เเตกต่างจาก Scuba อย่างไร

ทำไมเราจึงใช้เว็ทสูท? รู้จักทุกแง่มุมของเว็ทสูทและการเลือกซื้อ

ชวนนักดำน้ำทุกท่าน มาทำความรู้จักกับเว็ทสูทในแง่มุมต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณหาคำตอบได้ว่า ควรใช้เว็ทสูทหรือไม่?

อ่าน ทำไมเราจึงใช้เว็ทสูท? รู้จักทุกแง่มุมของเว็ทสูทและการเลือกซื้อ

Wetsuit ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับคุณ?

การเลือกชุดเว็ทสูทที่เหมาะกับคุณควรพิจารณาความฟิตพอดี, ความหนาของชุดสำหรับอุณหภูมิน้ำ, จุดกันน้ำเข้าชุด, การมีแผ่นยางรองซิป, ชุดที่มีผ้าในเป็นขนและการเย็บแบบ Blindstitch และติดกาวเสริม เพื่อความสบายและป้องกันน้ำเข้าชุดอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่าน Wetsuit ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับคุณ?