การดำน้ำด้วยอุปกรณ์ Sidemount

การดำน้ำแบบนี้ จะใช้ถังอากาศไปอยู่ด้านข้างของลำตัวนักดำน้ำ แตกต่างกับการใช้อุปกรณ์ปกติ ที่ถังอากาศจะอยู่บนหลังของนักดำน้ำ วิธีการนี้มีใช้กันมานานแล้วในหมู่นักดำน้ำในถ้ำหรือในเรือจม ที่จำเป็นจะต้องเข้าไปในที่คับแคบ ถังดำน้ำบนหลังของนักดำน้ำอาจจะเป็นอุปสรรคในการมุด ลอด ช่องต่างๆ ได้ ในระยะหลัง การใช้อุปกรณ์ sidemount ได้เกิดเป็นที่นิยมในหมู่นักดำน้ำทั่วไปที่ไม่ได้เป็นนักดำน้ำในถ้ำหรือในเรือจม เนื่องจากระบบการติดตั้งอุปกรณ์ดำน้ำแบบนี้ได้เสนอทางเลือกให้ทำอะไรได้มากกว่า และที่สำคัญคือทำให้การลู่น้ำ (stremeline) ของนักดำน้ำดีกว่ามาก นักดำน้ำที่มีข้อจำกัด ไม่สามารถแบกถังอากาศหนักๆ ก่อนจะลงน้ำได้ สามารถใช้อุปกรณ์แบบนี้ลงไปใส่ถังอากาศในน้ำได้อย่างง่ายดาย การใช้อุปกรณ์แบบนี้ทำให้ดำน้ำได้ด้วยถังอากาศใบเดียว หรือหลายๆ ใบ ตามความจำเป็นได้โดยง่าย และการลู่น้ำที่มากกว่าจากการใช้อุปกรณ์แบบนี้ ทำให้นักดำน้ำรู้สึกอิสระ คล่องตัว เคลื่อนไหวไปในน้ำได้อย่างลื่นไหล โดยนักดำน้ำทุกคนที่ทดลองเรียนและดำน้ำด้วยอุปกรณ์ sidemount จะพูดกันเสมอว่ามันทำให้รู้สึกดีและสนุกกับการดำน้ำมากกว่า เมื่อเราไปถามนักดำน้ำ sidemount ว่าอะไรที่พวกเขาชอบมากที่สุดกับการดำน้ำแบบนี้ เรามักจะได้คำตอบคล้ายคลึงกันว่า ‘Freedom” เพราะการดำน้ำแบบ sidemount นี้จะคล้ายกับ Freediving อย่างมาก นั่นคือนักดำน้ำจะรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับผืนน้ำ สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระในทุกทิศทาง ความรู้สึกอิสระภายใต้ภาวะไร้น้ำหนักนี้เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การดำน้ำแบบ sidemount นี้เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในยุคหลังนี้ คุณประโยชน์หลักๆ ของการดำน้ำแบบ sidemount มีดังต่อไปนี้ การลู่น้ำ การทำให้ตัวลู่น้ำนั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในการดำน้ำ เพราะถ้าเราต้องต้านกระแสน้ำตลอดเวลา นอกจากจะใช้อากาศเปลืองกว่าแล้ว สิ่งสำคัญมากกว่านั้นคืออาจจะทำให้เกิดอาการเหนื่อย อาการเครียด ซึ่งจำนำไปสู่ปัญหาใหญ่ๆ อีกมากมายขึ้นมากได้ อุปกรณ์ sidemount ที่ติดตั้งข้างลำตัวนั้นจะช่วยลดพื้นที่ในการต้านกระแสน้ำ ผลก็คือการเคลื่อนไหวจะเบา ง่าย ลื่นไหลมากขึ้น นักดำน้ำก็จะผ่อนคลายและสบายมากขึ้นนั่นเอง การ Trim & Balance  การ Trim หมายถึงทิศทางของศีรษะและเท้า in trim คือการที่ระดับของศีรษะและเท้าอยู่ในระนาบเดียวกัน head down คือศีรษะต่ำกว่าเท้า และ feet down คือเท้าต่ำกว่าศีรษะ การที่นักดำน้ำสามารถ in trim เป็นเรื่องสำคัญในการเคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพใต้น้ำ ถึงแม้ว่านักดำน้ำที่ใช้อุปกรณ์ธรรมดาจะสามารถทำตัวให้ in trim ได้เช่นกัน แต่การ in trim นี้เรียกได้ว่าเป็นสัญญลักษณ์ของนักดำน้ำแบบ sidemount ที่ดี เนื่องจากในหลักสูตรการดำน้ำแบบนี้ การเรียนการสอนจะเน้นทักษะมากขึ้นกว่าการดำน้ำปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมรูปทรง ความสมดุลย์ และความมั่นคงในน้ำ (ในขณะเดียวกัน ตัวอุปกรณ์ที่มีถังอากาศอยู่ด้านข้างลำตัวนี้ จะช่วยส่งเสริมให้นักดำน้ำ in trim ได้ง่ายขึ้นอย่างมากอีกด้วย) อุปกรณ์ข้างลำตัวนี้จะช่วยให้นักดำน้ำมี balance ที่ดีกว่าด้วย เนื่องจากถังจะอยู่ต่ำและอยู่ข้างลำตัว การพลิกไปทางซ้ายหรือทางขวาก็จะยากกว่าไม่ว่าจะใช้ถังเดียวหรือถังคู่สองข้างก็ตาม (ถึงแม้ใช้ถังด้านข้างลำตัวทั้งสองข้างจะดีกว่า) อุปกรณ์ sidemount นี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้นักดำน้ำนิ่ง มั่นคง และลื่นไหลเวลาอยู่ใต้น้ำ…

อ่าน การดำน้ำด้วยอุปกรณ์ Sidemount
Diving with Manta - Keng Krob

เรียนดำน้ำที่ไหนดี ที่ไหนถูกกว่ากัน

การเลือกสถานที่เรียนดำน้ำควรพิจารณาวันหยุด, เดือนที่สามารถเรียนได้, แบบการเรียน, และครูที่น่าเชื่อถือเพื่อประสบการณ์การเรียนที่เหมาะสมและปลอดภัย. การทราบข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้น้องๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในการเลือกเรียนดำน้ำ

อ่าน เรียนดำน้ำที่ไหนดี ที่ไหนถูกกว่ากัน

PADI Self Reliant Diver

ไม่นานมานี้ ผมได้พบว่ามีหลักสูตรการดำน้ำขึ้นมาอีกหลักสูตรหนึ่งที่น่าสนใจอย่างมาก ชื่อหลักสูตร PADI Self Reliant Diver เมื่อเห็นครั้งแรก ผมรู้สึกว่าน่าสนใจมาก และคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับนักดำน้ำทุกคน รวมถึงนักดำน้ำที่เป็นมืออาชีพ เช่นผู้สอนดำน้ำหรือไดว์มาสเตอร์ เพราะการดำน้ำเป็นอาชีพนั้น โอกาสที่จะดำน้ำกับคนที่สามารถดูแลตัวเราได้อย่างดีนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นบ่อยนัก การพานักเรียนดำน้ำหรือนักดำน้ำหน้าใหม่ไปดำน้ำนั้น มีความปลอดภัยไม่ต่างกับ (หรือน้อยกว่า) ดำน้ำคนเดียวเลย แต่ถึงแม้กับนักดำน้ำทั่วไปที่ไม่ต้องทำหน้าที่ดูแลนักดำน้ำหน้าใหม่ การมีความสามารถในการดำน้ำและสามารถดูแลตนเองได้อย่างเบ็ดเสร็จนั้น จะเป็นเรื่องที่ดีงามและปลอดภัยอย่างยิ่ง ไม่ว่าเราจะดำน้ำกับกลุ่ม กับบัดดี้ หรือกับทีมดำน้ำของเรา นักดำน้ำบางคนที่ดำน้ำแล้วทำกิจกรรมบางอย่าง เช่นการถ่ายภาพใต้น้ำ การที่จะต้องรีบร้อนตามกลุ่ม หรือต้องคอยเกรงใจบัดดี้เป็นสิ่งนี่น่าลำบากใจและรำคาญใจอย่างมาก หรือนักดำน้ำบางคนที่ต้องท่องเที่ยวไปเพียงคนเดียว และไม่สามารถหาบัดดี้ที่เหมาะสมได้ในทริปนั้น การเรียนหลักสูตรนี้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ต่อให้ไม่ได้วางแผนจะดำน้ำคนเดียว หลักสูตรนี้ก็จะมีประโยชน์อยู่ดี มันจะสอนเราตามชื่อหลักสูตรเลย คือการเป็นนักดำน้ำที่พึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับการดำน้ำตามปกตินั้น มาตรฐานทั่วไปที่เคยเป็นมาคือต้องมีการดำน้ำกับบัดดี้เสมอ ทุกคนได้รับการสอนมาตั้งแต่เรียนระดับโอเพ่นวอเตอร์ ว่าต้องดำน้ำกับบัดดี้เท่านั้นจึงจะปลอดภัย อย่างไรก็ดี มันก็มีเหตุผลที่นักดำน้ำที่มีประสบการณ์บางคนจะดำน้ำได้โดยไม่มีบัดดี้ การเรียนรู้ที่จะทำการดำน้ำคนเดียวอาจจะทำให้นักดำน้ำผู้นั้นมีความสามารถสูงกว่าในสถานการณ์การดำน้ำส่วนมาก การจะดำน้ำคนเดียวได้อย่างปลอดภัยนั้น จำเป็นจะต้องมีการฝึกฝนที่เหมาะสม มีอุปกรณ์ครบครับ และมีทัศนคติที่ถูกต้องในการยอมรับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องสำหรับการดำน้ำโดยอิสระดังที่กล่าวมา นักดำน้ำที่มีประสบการณ์จะสามารถดำน้ำโดยไม่มีบัดดี้อย่างรับผิดชอบได้ การดำน้ำแบบนี้เราเรียกกันว่า Self Reliant Diving หรือการดำน้ำแบบพึ่งพาตนเอง เป็นกิจกรรมผจญภัยที่อาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคน แต่มันก็มีที่ของมันอยู่ในสังคมดำน้ำ หากท่านมีวินัยทางจิตใจ มีความมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ ฝึกฝน และทำตามเทคนิกของการดำน้ำแบบพึ่งพาตนเองแล้ว ท่านจะพัฒนาทักษะและความเชื่อมั่นในตนเองเวลาดำน้ำคนเดียว เวลาดำน้ำกับบัดดี้ หรือเวลาเป็นส่วนหนึ่งของทีม สำหรับผู้สนใจจะเรียนรู้และฝึกฝนการดำน้ำแบบนี้ ท่านจำเป็นต้องเป็นนักดำน้ำระดับ Advanced Open Water Diver หรือเทียบเท่า ต้องมีอายุมากกว่า 18 ปี และดำน้ำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 dives และก่อนจะได้รับการยอมรับเข้าสู่การเรียนหลักสูตรนี้ ท่านจะถูกประเมินทักษะทั้งหมดจากผู้สอนวิชาการดำน้ำแบบพึ่งพาตนเองนี้ก่อนที่จะได้รับการยอมรับให้เข้าเรียนในหลักสูตรนี้ได้ การเรียนในหลักสูตรนี้ ผู้เรียนจะได้เรียนวิชาเกี่ยวกับความปลอดภัยในการดำน้ำในระดับสูง เช่นการวางแผนคำนวนอัตราการบริโภคอากาศของตนเอง การใช้ระบบดูแลชีวิตสำรอง และการจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินในการดำน้ำด้วยตนเอง ในการฝึกภาคทะเลนั้น ผู้เรียนจะได้ฝึกการดำน้ำทั้งสิ้น 3 Dives ซึ่งจะได้รับการฝึกดังนี้ ว่ายน้ำเพื่อหาอัตรการบริโภคอากาศของตนเอง และการคำนวนในภายหลัง สลับใช้แหล่งอากาศสำรองอิสระระหว่างการจำลองสถานการณ์ฉุกเฉิน ดำน้ำโดยไม่มีหน้ากาก นำทางไปยังจุดหมายต่างๆ รวมถึงไปยังที่ที่จะขึ้นจากน้ำ การใช้ Delay Surface Marker Buoy (DSMB) เวลาไปเรียนจริงๆ หลักสูตรนี้จะสนุกและน่าสนใจมาก ผู้เรียนจะได้ใช้อุปกรณ์สนุกๆ ที่จะทำให้ดำน้ำปลอดภัยกว่าเดิม เช่นการห้อยถังอากาศไปอีกใบหนึ่ง และฝึกฝนจนรู้สึกว่ามันลู่น้ำ ง่ายดาย ไม่ได้เกะกะอะไรเลย ผู้เรียนจะได้ฝึกการยิง Safety Sausage ได้ในระดับเทพ ในขณะรักษาความลึกไว้ที่เดิม ไม่ว่าจะตัดสินใจยิงมันในความลึกใดก็ตาม เรื่องน่าสนใจมากๆ อีกเรื่องหนึ่งคือผู้เรียนจะหัดคำนวนอัตราการบริโภคอากาศของตนเอง จนกระทั่งสามารถนำมาใช้ในการวางแผนหาเวลา dive time ของการดำน้ำในแต่ละครั้งได้อย่างแม่นยำ ยังมีเรื่องอีกมากมาย…

อ่าน PADI Self Reliant Diver

ทำไมถึงจะอยากเป็นนักดำน้ำแบบเทคนิคอล?

ดำน้ำเทคนิคอลเป็นอย่างไร ? เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า เราสามารถเป็นนักดำน้ำชั้นยอดที่ประสบความสำเร็จในการดำน้ำตลอดชีวิตโดยไม่ต้องดำน้ำแบบเทคนิคอล การเป็นนักดำน้ำแบบนันทนาการนั้นเป็นเรื่องยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่สำหรับคนบางประเภท ที่มีความรู้สึกอยากจะสำรวจ ค้นหา มากไปกว่าภายใต้ขีดจำกัดของการดำน้ำแบบนันทนาการทั่วๆไป ในโลกใต้น้ำยังมีเรือจมที่น่ามหัศจรรย์ ที่ผู้คนไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปสัมผัส จมอยู่อีกมากมายในที่ลึก มีแนวปะการังน้ำลึกที่มีสัตว์ทะเลที่ยากจะพบพานที่เราจะไม่เจอในที่ตื้นกว่านั้น นักดำน้ำบางคนก็ชื่นชอบกับความท้าทายและสมาธิที่ต้องใช้ในการดำน้ำประเภทนี้ หรือบางคนก็ชอบมากที่จะดำน้ำด้วยอุปกรณ์และกระบวนการที่ทันสมัย หลายคนมีความต้องการที่จะนำเอาความรู้ความสามารถและทักษะของการดำน้ำแบบเทคนิคอลนี้ไปถ่ายโยงใช้กับการทำงานและชีวิตประจำวัน เหตุผลเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้การดำน้ำแบบเทคนิคอลดึงดูดใจนักดำน้ำหลายคน การดำน้ำแบบเทคนิคอลต้องใช้ความพยายาม วินัย และอุปกรณ์ที่มากกว่าการดำน้ำแบบนันทนาการทั่วๆไป ซึ่งหมายความว่ามันไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่สำหรับท่านที่มีความใฝ่ฝันที่จะฝึกฝน ชอบความท้าทาย มีความทุ่มเทในการฝึกฝนตนเอง การเรียนและการดำน้ำแบบเทคนิคอลนี้จะให้รางวัลแก่ชีวิตของท่านอย่างไม่น่าเชื่อ ก้าวแรกของการเริ่มต้นทำอย่างไร? PADI มีหลักสูตรที่น่าสนใจ ที่เริ่มต้นอย่างนุ่มนวล สะดวก สบาย สำหรับท่านที่ต้องการก้าวผ่านประตูไปสู่โลกของนักดำน้ำแบบเทคนิคอลนี้ ด้วยหลักสูตรเบื้องต้น ที่เรียกกันว่าหลักสูตร “Tec 40” หลักสูตรนี้จะเป็นสะพานอันเรียบง่ายและงดงามในการเชื่อมระหว่างการดำน้ำแบบนันทนาการไปสู่การดำน้ำแบบเทคนิคอล ผู้เรียนจะได้รับการฝึกทักษะ ความรู้ ความสามารถอย่างค่อยเป็นค่อยไป ได้สร้างพื้นฐาน ฝึกทักษะกลไก (Motor Skill) และฝึกสภาพจิตใจ ในการที่จะก้าวไปเป็นนักดำน้ำเทคนิคอลชั้นดีต่อไป เมื่อจบการเรียนหลักสูตร Tec 40 ผู้เรียนจะมีศักยภาพในการดำน้ำลึกถึง 40 เมตรด้วยการใช้อากาศปกติหรืออากาศที่มีความเข้มข้นของอ๊อกซิเจนสูง (Enriched Air) สามารถดำน้ำแบบ Decompression ได้ถึง 10 นาที และสามารถใช้ Enriches air nitrox ได้ถึง 50% ในการทำ Decompression เพื่อให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น นักดำน้ำที่จบหลักสูตร Tec 40 จะมีศักยภาพในการดำน้ำที่สนุกและท้าทายกว่าเดิม จะได้ไปยังสถานที่ที่น่าตื่นเต้น แปลกใหม่ และมีความพร้อมทั้งทักษะ ร่างกาย และจิตใจที่จะก้าวต่อไปในหลักสูตรขั้นสูงยิ่งขึ้นครับ

อ่าน ทำไมถึงจะอยากเป็นนักดำน้ำแบบเทคนิคอล?

PADI TecRec มันคืออะไร

หลักสูตรการเรียนดำน้ำแบบเทคนิคอลนี้เป็นหลักสูตรระดับเริ่มต้นของการดำน้ำแบบเทคนิคอลด้วยอุปกรณ์ระบบเปิด (Open circuit) หากจะดูจากความหมายของคำว่าเทคนิคอลไดว์วิ่งแล้ว มันหมายความว่าเป็นการดำน้ำที่นำนักดำน้ำไปเกินขีดจำกัดของการดำน้ำแบบนันทนาการ (Recreational Diving) การดำน้ำแบบเทคนิคอลนั้นใช้กระบวนการดำน้ำในระดับสูง ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และมีการฝึกฝนอย่างหนักเพื่อจะจัดการกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ความเสี่ยงอันดับต้นๆ ของการดำน้ำแบบเทคนิคอลก็คือการที่ไม่สามารถจะขึ้นสู่ผิวน้ำได้ทันทีในทุกเวลาเนื่องจากในการดำน้ำแบบนี้จะมี “เพดาน” ที่มองไม่เห็นแต่ถูกกำหนด อันเกิดจากความจำเป็นที่ต้องทำการลดความกด (Decompression) หรือแม้กระทั่งการมี “เพดาน” จริงๆ ที่จับต้องได้เช่นการอยู่ในถ้ำหรือในเรือจม นักดำน้ำส่วนมากดำน้ำแบบเทคนิคอลเพราะความสนุกและท้าทายมากกว่าที่จะทำเป็นอาชีพ เราจึงเรียกการดำน้ำแบบนี้ (ที่เป็นการดำระดับเทคนิคอล แต่ไม่ใช่เพื่ออาชีพ) ว่าเป็นการดำน้ำแบบนันทนาการอยู่ แต่เนื่องจากระดับการดำน้ำที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ เทคนิค และการฝึกฝนในระดับสูงทำให้การดำน้ำแบบนี้ถูกจัดให้เป็นแบบเทคนิคอล เพื่อป้องกันความสับสนเกี่ยวกับขีดจำกัด จึงเกิดคำว่า TecRec ขึ้นมาโดย PADI TecRec ถูกก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ. 2000 โดยใช้ชื่อว่า Tec Deep Diver Course และได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมดำน้ำทั่วโลกว่าเป็นหลักสูตรการดำน้ำแบบเทคนิคอลระดับเบื้องต้นที่เข้มข้นและน่าเชื่อถือมากที่สุดหลักสูตรหนึ่ง หลักสูตรนี้แต่เดิมมีสองหลักสูตรย่อยอยู่ในตัวของมัน คือหลักสูตร Tec Deep Diver Course (12 dives) และหลักสูตรย่อยชื่อว่า Apprentice Tec Diver Course หลักสูตรนี้ในภายหลังถูกตั้งชื่อใหม่ว่าหลักสูตร Tec Diver Level 1 และในที่สุด ก็ถูกแบ่งออกไปอีก (dive 1 & 2) เป็นหลักสูตร Tec Basics ในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงชื่อของหลักสูตร โดยหลักสูตร Tec Deep Diver นั้นเปลี่ยนเป็น Tec 50 (เพราะมีขีดจำกัดของความลึกที่ 50 เมตร) และก็มีหลักสูตรย่อยก่อนหน้าที่จะจบหลักสูตรนี้อีกสองหลักสูตร (คือ Tec 45 และ Tec 40) โดยจุดมุ่งหมายของ PADI เพื่อสร้างหลักสูตรที่เล็กกว่า ง่ายต่อการจัดการ และขยายความสามารถ ขยายคุณสมบัติในแต่ละระดับที่เรียน วิธีการนี้ซึ่งเป็นวิธีการปกติในการดำเนินการทั้งในวงการดำน้ำและในด้านอื่นๆ ทำให้ผู้เรียนสร้างศักยภาพของตนอย่างเป็นลำดับขั้นตอนและได้รับผลประโยชน์เต็มที่จากแต่ละขั้นของการฝึกฝน อย่างไรก็ดี เป้าหมายหลักในการบรรลุถึงระดับ Tec 50 นั้นก็ยังคงอยู่โดยไม่เปลี่ยนแปลง

อ่าน PADI TecRec มันคืออะไร