หลักสูตร PADI Deep Specialty

การเรียนในหลักสูตรนี้ มีผู้สงสัยมักมากมายว่าเหตุใดจึงจำเป็นจะต้องมาเรียนวิชาการดำน้ำลึกเป็นพิเศษแบบนี้ ในเมื่อเราเป็นนักดำน้ำก็น่าจะสามารถดำลงไปเที่ยวกันลึกๆ และระวังไม่ให้ถึงขีดจำกัดของ recreational diver ในความลึกทึ่ 40 เมตรกันอยู่แล้ว

แต่การดำลึกในระดับนี้ หากเราไม่มีความรู้ ประสบการณ์ภายใต้การดูแลของผู้สอนมืออาชีพแล้ว โอกาสที่จะเกิดอันตรายยังจะมีมากกว่าที่เราคาดคิดไว้ครับ

เราคงจำกันได้ว่า เมื่อเราเรียนดำน้ำในระดับ open water diver น้ัน ครูจะพร่ำบอกเราเสมอว่าขีดจำกัดของการเป็นนักดำนำ้ระดับนี้คือความลึก 18 เมตร และหากเราเรียนถึงระดับ advanced open water diver เราจะดำน้ำได้ถึงระดับ 30 เมตร การที่มีขีดจำกัดดังที่กล่าวมานั้นไม่ใช่ว่าตั้งกันไว้โดยไม่มีเหตุผล แต่เป็นการตั้งขีดจำกัดตามระดับความสามารถและประสบการณ์ของหลักสูตรทั้งสองนั่นเองครับ

เมื่อครั้งที่จบ open มานั้น ทักษะและความรู้ที่เรียนมาจะยังอยู่ในระดับไม่สูง หากดำลึกเกิน 18 เมตรและไปเจอปัญหาในที่ลึกอาจจะแก้ไขได้ไม่ดี และเมื่อจบระดับ advanced มาแล้ว ถึงแม้จะมีการปรับการจมลอยที่ดีขึ้น มีความสามารถในการสนใจสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากขึ้น แต่ก็ยังมีขีดความเหมาะสมสำหรับความลึกไม่เกิน 30 เมตร

เนื่องจากระดับการตระหนักรู้ (awareness) ทักษะการรับรู้ปริมาณอากาศ การรับรู้ NDL ที่จะหมดไปโดยเร็ว และการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในความลึกที่เกิน 30 เมตรนั้น ยังไม่สมบูรณ์พอ นักดำน้ำที่จบมาเพียงระดับ advanced จึงยังไม่เหมาะที่จะลงไปในที่ลึกกว่า 30 เมตรอย่างปลอดภัย

อีกประการหนึ่ง หากเรามีประสบการณ์การดำน้ำมามากพอสมควร เราคงจะนึกได้ว่าสภาพสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน ก็ทำให้การดำน้ำที่อาจจะไม่ลึกมาก มีความยาก จนกระทั่งจำเป็นต้องใช้ทักษะการดำน้ำในระดับสูงพอๆ กับการดำน้ำลึกมากๆ เช่นไปดำน้ำในความลึกที่ 12 เมตรแต่มีกระแสน้ำและทัศนวิสัยที่ไม่ดี อาจจะต้องใช้ทักษะระดับสูงกว่าดำน้ำลึก 35 เมตรในที่น้ำใสและนิ่ง

การเรียนรู้ทักษะและฝึกประสบการณ์ในหลักสูตร deep specialty จึงมีประโยชน์ไม่ใช่เพียงแต่ใช้ในการดำลึกอย่างเดียว แต่สามารถใช้สำหรับการดำน้ำที่ยากกว่าปกติอีกด้วย

ก็อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นมาในใจของผู้อ่านอีกว่า “แล้วเราจะดำลึกเกิน 30 เมตร กันไปทำไม ในเมื่อเวลาไปเที่ยว เราก็ดำน้ำกันไม่เกินนั้นอยู่แล้ว” ซึ่งคำตอบสำหรับคำถามนี้เป็นสิ่งที่คนเคยเรียนและเคยลงไปในที่ลึกจะทราบกันดีว่ามันมีหลายสิ่งอย่างที่มีอยู่ในที่ลึกและไม่มีในที่ตื้น เช่นปลาฉลาม ปลาโรนัน ที่จะนอนนิ่งๆ ในความลึกกว่า 30 เมตรในเกือบทุก dive site ที่เราดำเที่ยวกันในทริป live aboard ทั้งหลาย มีเรือจมหลายลำที่น่าสนใจอยู่ในความลึกกว่า 30 เมตร ภูมิทัศน์ใต้น้ำหลายจุดที่น่าตื่นตาตื่นใจในที่ลึกที่คนไม่ได้ลงไปจะไม่เคยเห็นและรับรู้

การดำน้ำนั้นเป็นกิจกรรม adventure ของคนที่ร่วมกิจกรรมนี้อยู่แล้ว เป็นการเติมเต็มหลายด้านของชีวิต และหากมีการเรียนรู้จากการถ่ายทอดที่ดี มีการส่งเสริมประสบการณ์ที่เหมาะสม กิจกรรมดำน้ำก็จะเป็นทักษะที่สามารถถ่ายโยงไปเป็นทักษะชีวิต ทำให้ชีวิตของผู้เรียนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

แต่ที่น่าสนุกและได้ประโยชน์ไปยิ่งกว่านั้น คือ adventure ในระดับ trilling เพราะเราไปแสวงหาความตื่นเต้นอันเกิดจากกิจกรรมที่ท้าทายกว่าปกติ ภายใต้การจัดการกับความเสี่ยงอย่างรับผิดชอบ ที่เราสามารถจะได้รับจากการเรียนและดำน้ำในระดับ deep specialty นี้

การมีความสามารถในการดำน้ำลึกอย่างปลอดภัยจึงขยายรัศมีการท่องเที่ยวใต้น้ำของเรา และเปิดประตูสู่ความมหัศจรรย์ของโลกใต้ทะเลให้มากกว่าสำหรับนักดำน้ำที่มีขีดความสามารถสูงขึ้นครับ

สำหรับในหลักสูตร Deep Specialty นั้น ผู้เรียนที่เรียนกับ Marlin Divers จะได้เรียน:

  • การวางแผนการดำน้ำลึก การวางแผนการดำน้ำแบบ repetitive dives และ multilevel dives ในความลึกอย่างปลอดภัย
  • การจัดการกับเหตุการณ์ฉุกเฉินเบื้องต้นที่อาจะเกิดขึ้นจากการดำลึก การช่วยเหลือ การปฐมพยาบาล และการส่งไปดูแลรักษา
  • การคำนวนอัตราการบริโภคอากาศของตนเอง (surface air consumption) ซึ่งทำให้วางแผนความปลอดภัยได้อย่างเฉียบคมมากขึ้น
  • การจัดการกับการเมาไนโตรเจน (nitrogen narcosis)
  • การฝึกทำ safety stop และ emergency decompression stop อย่างเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ผู้เรียนจะทำ stop ได้นิ่งขึ้น แม่นยำขึ้น ทำให้การ off gas สมบูรณ์กว่าเดิม
  • การฝึกทำความเข้าใจกับแรงกดดันในความลึก รับรู้ผลของแรงกดดันในความลึกที่มีต่อวัตถุ ร่างกาย และจิตใจของนักดำน้ำ ด้วยการลงไปสัมผัส มองเห็น รู้สึก ด้วยประสบการณ์ตรงของตนเอง ภายใต้การดูแลของผู้สอน
  • ฝึกการเข้าใจและสื่อสาร no decompression limit (NDL) การหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ NDL การใช้อุปกรณ์ในการช่วยให้เกิดความสามารถที่จะลด decompression stress ในแต่ละ dive ได้ดีขึ้น
  • ฝึกการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินในที่ลึก
  • ฝึกการนำทาง (navigation) ในที่ลึก
  • ฝึกเทคนิกการหายใจ การปรับตัวให้ stremeline การปรับ trim และการเคลื่อนที่อย่างมีประสิทธิภาพในความลึก
  • การใช้อุปกรณ์พิเศษในการดำน้ำลึก เช่นเชือกนำทาง ถังอากาศฉุกเฉิน surface support station

การเรียนจบในหลักสูตรนี้จึงสามารถพัฒนานักเรียนให้มีขีดความสามารถสูง มีความพร้อมที่จะไปในที่อันตรายได้อย่างปลอดภัย เป็นหนึ่งในบันไดไปสู่การเป็นนักดำน้ำระดับ master scuba diver และเป็นวิชาที่จำเป็นต้องเรียนก่อน (prerequisite) หากจะเรียนต่อในระดับ technical diving ต่อไปครับ

Deep Specialty Course 2-3 April 2022

ที่ความลึก 33 เมตรตรงลานลึกหน้าเกาะโรงหนัง มีหุบเหวใต้น้ำที่หักลงไปลึกมาก วันนี้เราลงกันได้เพียง 40 เมตรด้วยเวลา NDL ที่จำกัด ด้วยเหตุที่เป็นชั้นการเรียนการสอน และนักเรียนที่มาเรียนยังไม่ได้เรียนดำน้ำถึงระดับ technical จึงจะลงไปดูในที่ลึกกว่านี้หรือใช้เวลานานกว่านี้ไม่ได้

ตรงชั้นหน้าผาที่ความลึก 40 เมตรนั้น มีโพรงที่เว้าเข้าไปลึกพอสมควร แต่ยังไม่ถึงขั้นที่จะเรียกว่าเป็นถ้ำใต้น้ำได้ โพรงและหน้าผาดังกล่าวนี้ทอดตัวในทิศทาง ESE – WNW น่าจะยาวมากพอสมควรแต่ด้วยเวลาที่จำกัดทำให้ไม่สามารถสำรวจจนหมดได้

รายงานเรื่องนี้ให้ครูดำแห่งเรือวราสินธุ์รับทราบแล้ว คาดว่าอีกไม่นานนี้ครูดำคงเอาสกุ๊ตเตอร์ไปแว๊นที่หมายนี้อย่างแน่นอนครับ

#เรือวราสินธุ์

ภาพปะการังและสิ่งมีชีวิตที่พื้นทะเลระหว่างดำน้ำ Deep Specialty

ภาพปะการังและสิ่งมีชีวิตที่พื้นทะเลระหว่างดำน้ำ Deep Specialty