มือใหม่หัดหาของเล็กที่ Dumaguete

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไป survey จุดดำน้ำที่ชื่อว่า “Dumaguete”  ซึ่งตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะ Cebu ประเทศฟิลิปปินส์ จุดเด่นของการดำน้ำที่นี่คือการดำน้ำแบบ muck dive เน้นที่สัตว์เล็กสัตว์น้อยคุ้ยเขี่ยทรายหาของ ทั้งที่ปกติแล้วเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบดำน้ำดูสัตว์เล็กๆ จุ๋งจิ๋งๆ ซักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากความที่ชอบจุดดำน้ำของประเทศนี้เป็นพิเศษ ก็เลยขอไปลองดูซักหน่อยละกัน

จุดดำน้ำหน้าหาดของ Atmosphere Resort and Spa
ลักษณะภูมิประเทศใต้น้ำที่ความลึกไม่เกิน 5 เมตรหน้ารีสอร์ต

Check Dive !!

วันแรกของการดำน้ำ เราได้มีโอกาสไปพักที่รีสอร์ตหรูหราชื่อว่า Atmosphere Resort and Spa  จุดดำน้ำแรกของการดำน้ำของเราก็อยู่ที่หน้าหาดของรีสอร์ตนั่นเอง ซึ่งเราต้องแบกถังดำน้ำเดินลงไปเอง อันนี้ต้องใช้ความถึกเฉพาะบุคคลกันซักหน่อย

สำหรับท่านที่ใช้ฟินแบบ full foot อาจจะต้องเจ็บเท้ากันเล็กน้อยนะ แต่พอลุยผ่านหาดหินก้อนโตๆมาได้ไม่กี่เมตรเท่านั้น ก็จะเห็นสนามหญ้าทะเลใต้น้ำกว้างใหญ่ (หากใครเคยไป Oslob มาแล้วให้นึกภาพตามได้เลย ภูมิประเทศค่อนข้างคล้ายกันมาก) ในทุ่งหญ้านี้เต็มไปด้วยลูกปลาเล็กปลาน้อย ยังกับว่าพวกมันกำลังวิ่งเล่นในสนามหญ้าหน้าบ้านยังไงยังงั้น แค่นั่งดูลูกปลาวิ่งเล่นกันเฉยๆ ก็เพลินมาก…บอกเลย

นอกจากนี้ก็ยังมี Filefish, Catfish, Razorfish, Garden Eel ให้เห็นเกลื่อนกลาดทั่วไป พอว่ายพ้นแนวหญ้าทะเลไป พื้นทะเลก็เริ่มลาดเอียงไต่ระดับลึกลงไปเรื่อยๆ โดยมีแนวปะการังทั้งแข็งและอ่อนเป็นแนวยาวตลอดทั้งหาด ให้เราว่ายดูเพลินๆ จนจบไดฟ สัตว์น้ำสามัญในละแวกนี้ก็มีเยอะมาก เช่น ปลาหูช้าง, ปลาการ์ตูน, ปลาวัว, เต่า และอื่นๆ อีกมากมาย

ในไดฟแรกนี้เป็นแค่การ check dive และจุดดำน้ำนี้ก็ยังไม่ใช่ highlight มากนัก เราจึงดำน้ำกันแค่พอหอมปากหอมคอรอเวลามื้อเย็นเท่านั้น จบไดฟแรกไปสวยๆ ประทับใจระดับ 6/10 ดำง่าย สายชิว เหมาะกับนักดำน้ำระดับเริ่มต้น

Muck dive ที่ San Miguel
เริ่มปฏิบัติการค้นหา ชี้เป้า แล้วลันชัตเตอร์

Muck Dive at Dumaguete

วันที่สองของการดำน้ำ เรานั่งเรือออกไปเพียงไม่เกิน 10-15 นาที ก็ถึงหมายแรกที่ชื่อว่า San Miguel เป็นจุดดำน้ำบ้านๆ หน้าหาดเหมือนเมื่อวาน  น้ำใสจนมองเห็นพื้น  แต่พื้นที่นี่เป็นทรายละเอียดเหมือนแป้งสีดำๆ โล้นๆ ไล่ระดับตั้งแต่ 15-25 เมตร พอฟินเริ่มแตะพื้นทรายยังไม่ทันจะเคลียร์หูเสร็จเรียบร้อยดี dive leader ของเราก็เคาะเรียกไปดู nudi ตัวแรกในทริปนี้ เจ้า “Stiliger” ว้าวสุดๆ น่ารักมากๆ  ตัวโตจนเห็นหนามทุเรียนบนหลังของน้องได้ชัดด้วยตาเปล่า

หลังจากปล่อยให้ครูพี่อุ้มแห่ง Scuba Project ตากล้องกิตติมศักดิ์ประจำทริปของเราในครั้งนี้ได้ถ่ายรูปสวยๆแล้ว เราก็เริ่มปฏิบัติการ “หาของ” หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นอะไรนอกจากทราย ทราย ทราย แล้วก็ ทราย แต่ dive lead คนเดิมก็พุ่งเข้าไปเขี่ย “ใบแปะก๊วย” ใกล้ๆ nudi ตัวแรกนั่นเอง แค่ใบแปะก๊วยใบแรกนางก็กวักมือเรียกหยอยๆ ให้ลูกทีมไปดู Costasiella หรือที่นักดำน้ำชาวไทยคุ้นเคยกันในชื่อ “น้องแกะ” แกะที่นี่เค้างานดีค่ะ ตัวใหญ่โต ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องขยับระยะโฟกัสมากนัก แม้แต่นักดำน้ำที่เริ่มจะสายตายาวอย่างพวกเราก็สามารถมองเห็นเขา 2 ข้างของน้องได้สบายๆ เลย เมื่อได้เห็นตัวอย่างจาก leader เจ้าถิ่นแล้ว ก็เลยขอลองหาของเองบ้าง พุ่งเข้าใส่ในแปะก๊วยใบที่ 2, 3 และ 4 ที่อยู่ไม่ห่างมากนัก ไม่อยากจะเชื่อเลย ทุกใบมีน้องแกะอยู่จ้ะ 1 ตัวบ้าง 2 ตัวบ้าง เฮ้ย…ของเค้าดีจริงๆ

Stiliger Ornatus
Stiliger ornatus

Critters น่ารักๆพบได้สามัญ

nudi ที่นี่หาไม่ยากจริงๆ ค่ะ มีตั้งแต่ขนาดจิ๋วระดับเห็บหมาไปจนถึงอ้วนกลมน่าใช้ส้อมจิ้ม หากสายตาใครเริ่มหย่อนยาน อาจหาตัวช่วยเป็นแว่นขยายพกพาเอามาด้วยก็น่าจะดีค่ะ แต่หากใครไม่อินของเล็ก ของโตๆ ก็มีให้เห็นกันทุก dive site ด้วยนะ เช่น ปลาการ์ตูน, ม้าน้ำ, ปลากบ, ปลาหมึก, ปลาไหล, Pipefish, Flamboyant, stonefish, Longnose Hawkfish โอ๊ย…เยอะจริงอะไรจริง

Costasiella
Costasiella หรือที่หลายๆคนเรียกว่า “น้องแกะ”

ขอสารภาพเลยว่าหลายๆ dive site ที่นี่ พอลงไปแล้ว แอบสบประมาทเบาๆ ว่าดูด้อยกว่าแสมสารบ้านฉันอีกนะเนี่ย แต่มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลยล่ะคุณขา ดำไปดำมา คุ้ยไปเขี่ยมา เฮ้ย… 90 นาทีแล้ว เฮ้ย…จะติด decom แล้ว มีของให้ดูเยอะมากจนเพลิน night dive ที่นี่ก็อลังการดาวล้านดวง แพลงก์ตอนเยอะจนขนลุก งูทะเลว่ายโฉบไปโฉบมา ดาวตะกร้าใหญ่ (sea basket) เท่าเข่งใส่ผักในตลาด นี่ขนาดดำน้ำชิวๆ ไม่ได้พกกล้องไปก็สนุกได้ เพราะได้ช่วยตากล้องช่วย dive leader หาของสนุกดี แอบเสียดายที่กล้องตัวเก่าดันพังไปซะก่อน ไม่งั้นคงฟินยิ่งกว่านี้แน่ๆ

ความน่ารักของ dive site แถวนี้ที่ชอบมากก็คือ เราสามารถขึ้นมาทำ safety stop ที่แนวลึก 5 เมตรได้แบบเพลินๆ เนื่องจากตลอดแนวที่ความลึกของหาดจะเป็นแนวหญ้า ที่เราสามารถหาของในหญ้าได้ไปอีก บางไดฟเราทำ safety stop กันไปครึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว dive leader ที่นี่เค้าก็หาของเก่งมากค่ะ ในเมื่อลูกค้าไม่ยอมขึ้น dive leader ก็เลยอยู่ช่วยกันหาของจนกว่าลูกค้าจะทนไม่ไหว ร้องขอขึ้นเองเพราะอากาศหมด

pteraeolidia สองตัวกำลังตีกัน
Pteraeolidia 2 ตัว กำลังตีกัน

แต่เรามีเรื่องตื่นเต้นมาเม้าท์มอยให้ฟังด้วยล่ะ ในระหว่างที่เรากำลังทำ safety stop ไปหาของไป ครูพี่อู๊ดจาก Scuba Project ก็มาดึงฟินเรารัวๆๆ ขุ่นพระ!!!!! งูค่ะ พี่อู๊ดชี้ให้ดูงูค่ะ มันนอนอยู่ใกล้มากๆ ไม่เกิน 2 เมตร มันคือ งู ที่ไม่ใช่งูทะเล มันเป็นงูบก งูอะไรไม่รู้ แต่หน้าตาดูไม่น่าไว้ใจเลย โอย….หัวใจจะวาย เกือบสิ้นชื่อครูดำน้ำสาวสวยย่านบางบอนซะแล้ว

งูแม่น้ำ ที่มานอนเล่นในหญ้าทะเล
งูมาจากแม่น้ำบริเวณนี้ นอนเฉยๆแต่ดูน่าเกรงขามไม่ใช่ย่อย

Perfect night dive

night dive ที่นี่มีทีเด็ดมาก ในฐานะที่เป็นนักดำน้ำสาย(ปาร์)ตี้ เรามักจะหลีกเลี่ยง night dive อยู่เสมอๆ แต่มาถึง Dumaguete ทั้งทีก็ต้องลองซักไดฟ คืนที่สามเราเลือกลงดำน้ำกลางคืนใน dive site ที่ชื่อ Thalatta ซึ่งอยู่บริเวณหน้าหาดของ Thalatta Resort นั่นเอง จุดดำน้ำตรงนี้จะเสมือนว่าเป็นพื้นที่เอกชนของรีสอร์ตเค้า ถ้าเราไม่ได้พักที่รีสอร์ตเค้าเราจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมด้วยนะ แต่บอกเลย คุ้มมมมมม!!

ส่องไฟไปกลางน้ำตอน Night Dive อาจเจอ Sea Hare บินไปบินมา
Sea Hare ที่บินอยู่กลางน้ำ จนตอนแรกมโนไปว่าเป็น Sea angel

Thalatta Resort มีความน่าสนใจตรงที่ทางรีสอร์ตเค้าได้สร้างปะการังเทียมส่วนตัวขึ้นมาเอง โดยการนำซากรถยนต์, โครงสร้างปูน, อิฐบล็อก และวัสดุก่อสร้างเก่าๆ มาวางทิ้งเอาไว้ให้เป็นบ้านปลา ซึ่งมันว้าวมากค่ะ มีทั้งปลาและปะการังอ่อนมาอยู่อาศัยกันมากมาย โดยเฉพาะ “ปลากบ” ที่นักดำน้ำชาวไทยชื่นชอบ ปลากบคือเยอะมาก

อันที่จริงเมื่อตอนกลางวันเราได้ลง day dive ที่นี่กันไปแล้ว แต่รู้สึกว่ายังไม่จุใจ ก็เลยเลือกลงซ้ำในตอนกลางคืนที่จุดเดิม เพิ่มเติมคือความฟิน ดูเจ้ามอเรย์ออกมาเลื้อยไล่งับปลาฝูงเหมือนกำลังกินบุฟเฟต์ หรือการเล่นซ่อนหากับปลากบ หาเจอตัวนึงก็กรี๊ดทีนึง เรียกว่ากรี๊ดกันลั่นสนั่นคุ้งน้ำเลยทีเดียว เพราะเจ้าปลากบพรางตัวเก่งมากจริงๆ ช่างเป็น night dive ที่บันเทิงเอามากๆ เลยล่ะ

Apo island

Apo Island ยังมีสภาพสมบูรณ์อยู่มาก
Apo Island (credit : Alex Stoyda – Mahi Mahi Resort)

วันสุดท้ายก่อนกลับ เราวางแผนไปดำน้ำกันที่ Apo Island ซึ่งเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของจุดดำน้ำละแวกนี้ เกาะนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมในการดำน้ำด้วยเช่นกัน เกาะตั้งอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ตที่เราพักมากนัก ใช้เวลานั่งเรือมาเพียง 15 นาทีก็ถึง การดำน้ำที่นี่เหมาะกับนักดำน้ำสาย wide และนักดำน้ำขาแรงเป็นอย่างยิ่ง ปะการังแถวนี้เค้าหนาแน่นและสมบูรณ์มากทอดตัวยาวหลายเอเคอร์ กว่าจะว่ายวนกลับมาถึงเรือเล่นเอาหอบเลยทีเดียว ที่ Apo นี่มีเต่าเยอะคล้ายๆ กับที่สิปาดัน นูดี้ตัวใหญ่ นูดี้ตัวเล็ก ก็มีให้หาเหมือนกัน แต่เนื่องจากจุดดำน้ำตรงนี้มีพื้นที่กว้างมาก ปะการังแน่นมาก สมบูรณ์มาก ว่ายเพลิน landscapeสวย จึงมักจะไม่เน้นหาของเล็กกัน

 

สรุประดับความฟินในการดำน้ำที่ Dumaguete นี้เราให้คะแนน 10/10 เลย ดำน้ำสนุก สะดวก สบาย ไม่เหนื่อย เหมาะกับนักดำน้ำสายชิว ที่ไม่ชอบดำน้ำหักโหม อ้อ…เค้ามีบริการ Nitrox ด้วยนะ นั่งเรือ Banca ออกไปแค่ไม่เกิน 15 นาทีก็ถึงจุดดำน้ำ แล้วก็กลับมานอนจิบกาแฟรอเวลาดำน้ำไดฟถัดไปแบบขี้เกียจๆ หากใครอยากไปปลดล็อกฉลามวาฬก็สามารถทำได้ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ซื้อ day trip นั่งเรือไปดำน้ำที่ Oslob ภายในเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้นเอง (ได้ทั้ง Snorkeling และ Scuba)

ที่พักก็มีให้เราเลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งหรูหราหมาเห่าอย่าง Atmosphere Resort and Spa หรือที่พักเล็กๆ แต่ใหม่เอี่ยมแบบ Mahi Mahi Resort  หรือจะอยู่ใกล้ชิดติด dive site เด็ดๆในย่านนี้อย่าง Thalatta Resort

ส่วนเรื่องของสัตว์ใต้น้ำก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกัน ถือได้ว่า หาก Anilao เป็นเมืองหลวงของ macro แล้วล่ะก็ Dumaguete ก็เป็นเบอร์สองรองลงมาเลยทีเดียว นี่ขนาดไปกันในช่วง low season ยังดีงามขนาดนี้ นึกไม่ออกเลยว่าช่วง high season จะพีคขนาดไหน

ติดตามอ่านกันมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายแล้ว อยากไปกันแล้วใช่ไม๊ล่ะ ลองไปเลียบๆ เคียงๆ ถามร้านข้างล่างนี้ได้เลยจ้ะ

ขอบคุณมิตรภาพดีๆและภาพปลากรอบสวยๆจาก
ครูอุ้ม ครูอู๊ด Scuba Project
FreedomDIVE
Alex Stoyda – Mahi Mahi Resort