สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมจะมาแชร์เทคนิคการฝึก DNF (Dynamic No Fins) ครับ
สิ่งที่แนะนำ
1. ฝึกเทคนิค no fin ให้ดี
อาจจะลอง 5 arm stroke หรือ leg kick 5 ครั้ง และลองทำให้ระยะไกลที่สุด
ลองวาดแขน และ เตะขาหลายๆ แบบดู แนะนำลองดูท่าจากนักแข่งใน Youtube เป็น idea ได้ บอกไว้ก่อนนะครับ ท่า no fin ในสระกับในทะเล อาจจะไม่เหมือนกันนะครับ
ลอง no fin sprint
คือ ว่ายแบบเร็วๆ พื่อดูว่ามีส่วนไหนต้านน้ำบ้าง และลองปรับท่าให้ต้านน้ำน้อยลง แนะนำให้ใส่ชุดแขนสั้นขาสั้นฝึก ร่างกายจะได้สัมผัสน้ำได้เต็มที่รู้ว่าส่วนไหนน้ำให้เกิดแรงต้านมากที่สุด
2. หา neck weight ใส่ และปรับน้ำหนักให้แรงลอยตัวพอดีมากที่สุด
สำคัญมากถ้าตัวลอยหรือจมเกินไป มีผลทำให้การดำได้ไม่ไกล อย่างใน clip แรงลอยตัวยังไม่พอดีเท่าไร ตัวยังลอยๆ ถ้าแรงลอยตัวพอดี การดำ no fin ก็จะง่ายขึ้นและรู้สึกดีขึ้นเยอะ
3. ฝึก CO2 Tolerance ให้บ่อยๆ
อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 – 2 ครั้ง ถ้าจะให้ดีก็ประมาณ 3 – 4 ครั้งต่ออาทิตย์ วิธีการฝึกแนะนำก็เป็นพวก
Over Under No fin
คือดำ no fin 25m และขึ้นมาว่ายน้ำต่ออีก 25m โดยไม่มีการพัก! ให้ครบ 10 รอบ (ดำ 25m + ว่าย 25m นับเป็น 1 รอบ)
Dynamic CO2 Table
ลองดำ no fin 25m 8 – 16 รอบ ให้ใช้เวลาให้น้อยที่สุด
สำคัญมากๆ คือความหนักในการฝึกต้องหนักแต่ไม่ควรหนักมากเกินจนทำให้รู้สึกไม่อยากฝึกอีกแล้ว เพราะการฝึก CO2 ต้องฝึกติดต่อกันหลายวัน ควรทำให้มีความท้าทายและมีความสนุก
4. ทดสอบ dive speed หรือความเร็วในการดำ
ถ้าเราดำเร็วเกินไปก็จะต้องใช้แรงเยอะ และเจอแรงต้านน้ำที่เยอะมาก ถ้าดำช้าไป O2 ก็เหมือนกับหายไปกับการกลั้นหายใจมากกว่า สมองมีการใช้ O2 ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ต้องลองทดสอบดำแต่ละความเร็วดู ลองช้าบ้าง เร็วบ้างจนกว่าจะเจอความเร็วที่เหมาะสม
5. ทดสอบจำนวน kick ต่อ arm stroke ว่าเท่าไรเหมาะกับตัวเรา
ถ้าไปดู VDO การแข่งนักแข่งหลายๆ คนจะใช้จำนวนแขนต่อขาไม่เท่ากัน บางคนใช้ 1 ขา 1 แขน บางคนใช้ 2 ขาต่อ 1 แขน ตัวเลขขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับความชอบ, mobility, กล้ามเนื้อ และ อื่นๆ เพราะฉะนั้น ต้องทดสอบ
มีอีกหลายๆ เรื่องที่ทำให้ no fin ได้ไกลขึ้นสบายขึ้น แต่ขอไว้ post หน้านะครับ ใครมีคำถามสามารถถามไว้ใน comment ได้เลยครับ
ตุน
บทความจาก Facebook: Beluga Freediving