Ticao Island Resort

ใครบางคนเคยกล่าวถึงการได้ไปเยือนที่ท่องเที่ยวบางแห่งว่า Come as a Guest, Leave as a Friend. แต่จะมีสักกี่แห่งที่สามารถสร้างความรู้สึกเช่นนั้นให้เกิดขึ้นได้จริงๆ ในใจของผู้มาเยือน

การมาดำน้ำที่เกาะติเกาก็เช่นกัน ที่ผมได้ยินคำกล่าวนี้จากนักดำน้ำชาวออสเตรเลียท่านหนึ่ง ก่อนผมจะเดินทางมาถึง ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่า เขาหมายถึงการดำน้ำที่เกาะนี้ หรือหมายรวมถึงรีสอร์ตที่มาพักด้วย เพราะที่เกาะแห่งนี้รีสอร์ตดำน้ำให้บริการเพียงแห่งเดียว

Ticao Island Resort ตั้งอยู่บนหาดเล็กๆ หน้าอ่าวที่ล้อมรอบด้วยเนินเขาทั้ง 3 ด้าน ทำให้ทะเลหน้ารีสอร์ตค่อนข้างสงบ ไม่มีคลื่นสูง แต่อาจมีกระแสน้ำอ่อนๆ เพราะชายหาดนี้อยู่ตรงปากอ่าวของลำคลองเชื่อมต่อจากในตัวเกาะ มีน้ำทะเลไหลเข้าออกได้ตามธรรมชาติ

ห้องพัก

ห้องพักแบบบังกะโล (ทางรีสอร์ตให้ชื่อว่า Cabana) จำนวน 11 ห้องหันหน้าออกทะเลทางตะวันออกเฉียงเหนือ รับแดดอ่อนๆ ตอนเช้าแบบไม่แยงตา หากอยากเล่นน้ำ ก็หย่อนเท้าลงไปบนพื้นทรายหน้าห้องก้าวออกไปเพียงไม่ถึง 10 ก้าวก็ได้สัมผัสน้ำทะเลแล้ว

ห้องพักทุกห้องสามารถเสริมเตียงรับเด็กๆ ที่มากับคุณพ่อคุณแม่เป็นครอบครัว หรือรับนักดำน้ำเพิ่มได้อีก 1-2 คน (เป็นห้องละ 3-4 คน) ช่วยเพิ่มตัวหารค่าใช้จ่ายด้วย

นอกจากห้องพักแบบเตียงใหญ่นอนสบายแล้ว ยังมีห้องแบบ budget สำหรับนักดำน้ำที่มีงบจำกัด แต่อยากสัมผัสประสบการณ์การดำน้ำที่นี่ด้วย

อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารที่นี่มีทั้งบุฟเฟต์และสั่งเป็นจานตามต้องการ (a la carte) ก็ได้ รวมทั้งมีเครื่องดื่มทั้งน้ำผลไม้, น้ำอัดลม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลากหลายเมนูให้เลือก ชา กาแฟ บริการตัวเองได้ทั้งวัน

เมนูบุฟเฟต์มีทั้งอาหารฟิลิปปินส์และอาหารตะวันตก รสชาติดี คนไทยอย่างเราทานได้สบาย (เมนูของฟิลิปปินส์หลายอย่างก็คล้ายอาหารจีนหรือมีถิ่นกำเนิดจากจีน) portion ใหญ่ ทานไม่หมดกันเลยทีเดียว

แม้ข้าวของเครื่องใช้จะไม่หรูหราแบบที่พักระดับ 4-5 ดาว แต่ความสะดวกสบาย ความสะอาด และบรรยากาศชิลๆ ริมทะเล ที่คนไม่พลุกพล่าน โดยเฉพาะยามนั่งทานมื้อค่ำกับเพื่อนที่รู้จักหรือคนที่รู้ใจ รับรองได้ว่า ที่นี่จะเป็นหนึ่งในรีสอร์ตที่คุณประทับใจ

การจัดการดำน้ำแบบชิลๆ สบายๆ

แม้จุดดำน้ำเด่นๆ ของเกาะติเกาจะห่างออกไปอย่างน้อย 30 ถึง 90 นาที (นั่งเรือบังก้า) แต่การจัดการการดำน้ำที่นี่ ไม่มีการเร่งรีบอะไรมากมาย นัดเจอกันที่ dive center ช่วงสายๆ ประมาณ 8 โมงเช้าหลังทานมื้อเช้า บรีฟกันแป๊บนึง แล้วก็เดินขึ้นเรือได้เลย

จุดดำน้ำหลักของที่นี่ ได้แก่ Manta Bowl ซึ่งเป็น cleaning station ของกระเบนราหู (manta ray) รวมถึงเป็นทางผ่านของฉลามวาฬด้วย กับ จุดดำน้ำทางเหนือและทางตะวันตกของเกาะ ซึ่งเป็น wall dive ที่สวยงามมาก

ถ้าไปดำน้ำที่ Manta Bowl ซึ่งใช้เวลานั่งเรือ 30 นาทีก็อาจจะดำ 2 ไดฟ์ แล้วกลับมาทานมื้อกลางวันที่รีสอร์ต แต่ถ้าขึ้นเหนือหรืออ้อมไปดำทางตะวันตกของเกาะ ซึ่งใช้เวลาเดินทางเกิน 1 ชั่วโมง ก็จะดำ 3 ไดฟ์ไปเลย โดยเตรียมมื้อกลางวันไปทานบนเรือด้วย

กลับมาถึงรีสอร์ตบ่ายๆ หรือเย็นๆ อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก็ไปดินเนอร์กันให้เรียบร้อย จากนั้น ไดฟ์ไกด์จะมาคุยกับคุณหลังอาหารค่ำ เพื่อวางแผนการดำน้ำในวันถัดไป ว่าจะดำที่ไหน เริ่มดำเมื่อไหร่ นัดเจอกันที่ dive center กี่โมง หากคุณต้องการสลับวันหรือเวลาดำน้ำ เช้า บ่าย อย่างไร ก็แจ้งไดฟ์ไกด์ได้เลย ค่อนข้างยืดหยุ่นมาก ชิลๆ สบายๆ

ส่วนรายละเอียดเรื่องจุดดำน้ำต่างๆ และการเดินทางมายังเกาะติเกา อ่านได้ที่ ดำน้ำที่เกาะติเกา (Ticao Island)

กิจกรรมอื่นๆ นอกจากการดำน้ำ

เวลาว่างยามกลางวัน คุณสามารถพายเรือคายัคเข้าไปในลำคลอง ชมป่าชายเลนน้ำกร่อย ที่มีปูตัวน้อยค่อยๆ เคลื่อนตัวหาอาหารไปตามรากโกงกาง เสียงนกน้อยใหญ่ดังบ้างเบาบ้าง เตือนกันว่าอาจมีผู้มาเยือนจากต่างถิ่น

ที่รีสอร์ตเลี้ยงม้าขนาดปานกลาง ไว้เผื่อใครสนใจจะลองนั่งหลังม้า ชมวิวบริเวณนั้นเล่นก็ได้ พาม้าเดินไปมาที่สนามหญ้าและชายหาดหน้ารีสอร์ต

ไม่ไกลจากรีสอร์ตมีหมู่บ้านชาวประมงล้อมอยู่ทุกด้าน คุณอาจเดินเล่นไปจนถึงหมู่บ้านเหล่านั้น ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านในหมู่บ้าน ตลอดจนร่วมทำกิจกรรมกับเด็กๆ ในหมู่บ้าน เช่น เล่นบาสเกตบอล ร่วมกันก็ได้

ยามค่ำคืนหลังอาหารค่ำ คุณอาจจ้างเรือบังกาส่วนตัว พร้อมฝีพาย พาเข้าไปปากคลองน้ำกร่อย ชมหิ่งห้อยกะพริบแสงพราย ท้าทายแสงดาวยามค่ำคืน เสียงพายเรือเบาๆ ไม่มีเสียงเครื่องยนต์เรือมารบกวนเสียงใบไม้ไหว ชมกะพริบแสงของแมลงตัวน้อยบินว่อนรอบต้นไม้

 

ด้วยที่พักอันเรียบง่าย เป็นธรรมชาติ บรรยากาศอันเงียบสงบของเกาะติเกา และการจัดการดำน้ำแบบสบายๆ นักดำน้ำจำนวนน้อย แม้น้ำทะเลที่นี่จะไม่ใสกิ๊กเหมือนสิมิลันบ้านเราหรือทะเลลึกในอินโดนีเซีย แต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์ หลากหลาย ทำให้เราหลงรักการมาดำน้ำพร้อมกับการพักผ่อนริมทะเล แบบไม่เหนื่อย ไม่หนัก ได้รู้จักทะเลฟิลิปปินส์เหมือนเป็นเพื่อนกัน มากกว่าเป็นเพียงแขกที่มาเยี่ยมเยือนเป็นครั้งคราว