ดำน้ำที่ Puerto Galera ปากทางเข้าทะเลฟิลิปปินส์

Puerto Galera เป็นเมืองเล็กๆ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะมินโดโร (Mindoro Island) มีช่องแคบเกาะเวอร์เด (Verde Island Passage) คั่นระหว่างเกาะลูซอน และที่กลางช่องแคบนี้คือเกาะเวอร์เด เกาะเล็กๆ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อช่องแคบนั่นเอง

ช่องแคบนี้เป็น 1 ในทางผ่านของน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกเข้าสู่ทะเลตอนกลางของประเทศฟิลิปปินส์ มีมวลน้ำปริมาณมหาศาลผ่านเข้าออกตลอดเวลา ทำให้มีแพลงก์ตอนสัตว์ทะเลมากมายเข้ามาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนและเจริญเติบโตในบริเวณนี้ จนทำให้มีแหล่งดำน้ำชื่อดังระดับโลกถึง 2 แห่ง ได้แก่ อะนิเลา (Anilao) และ เปอร์โตกาเลรา (Puerto Galera)

พื้นที่ดำน้ำและลักษณะไดฟ์ไซต์

ไดฟ์ไซต์ในบริเวณนี้ อยู่ตรงปลายสุดด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะมินโดโร แบ่งเป็น 2 พื้นที่ใหญ่ได้แก่
1. เขต Puerto Galera เป็นชายฝั่งเว้าแหว่ง และเกาะเล็กเกาะน้อยรอบคาบสมุทร
2. เกาะเวอร์เด (Verde Island) เป็นเกาะอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของ Puerto Galera

Puerto Galera

ไดฟ์ไซต์ในเขต Puerto Galera ส่วนใหญ่อยู่ตามแนวชายฝั่งทางเหนือของคาบสมุทรเล็กๆ นี้ ต่อเนื่องไปทางฝั่งตะวันออกที่เปิดสู่ช่องแคบเกาะเวอร์เด (Verde Island Pass) ซึ่งมักจะมีกระแสน้ำแรง เป็นที่อยู่ของสัตว์ใหญ่อย่างฉลามหางยาว (thresher shark) ที่อยู่ประจำถิ่น และฉลามวาฬที่ว่ายผ่านช่องแคบนี้

ทางด้านตะวันตกของพื้นที่นี้เป็นอ่าวเว้าแหว่งที่ไม่ลึกมาก มีแนวปะการังกระจายอยู่ทั่วไป บางแห่งเป็นพื้นทรายลึกตั้งแต่ 5-20 เมตรและเป็นไดฟ์ไซต์แบบ muck dive ที่น่าสนใจมาก สำหรับนักดำน้ำที่ชอบสัตว์ตัวเล็กหรือสัตว์หายากที่อาศัยอยู่ตามพื้นทราย

ไดฟ์ไซต์ที่น่าสนใจในบริเวณนี้ ได้แก่

The Canyons

ไดฟ์ไซต์นี้จัดเป็น signature ของการดำน้ำที่ Puerto Galera เลยทีเดียว ด้วยกระแสน้ำแรงจัดที่ไหลผ่านร่องน้ำแคบๆ 3 แห่งใต้ทะเล ความลึกสูงสุด 30 เมตร พานักดำน้ำล่องลอยไปท่ามกลางปะการังอ่อนที่มีชีวิตชีวาและสัตว์ตามแนวปะการังที่หลากหลาย รวมทั้งฝูงปลากะมง ทูน่า ปลาสาก และปลาฝูงสายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังสนุกกับการมองหา pygmy seahorse (จะไหวเหรอ?) และ eagle ray อีกด้วย สนุกสุดๆ เมื่อดำน้ำในช่วงน้ำขึ้น ที่นี่เป็นตัวเลือกสำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ และพร้อมจะสัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจในไดฟ์ไซต์ระดับ top 50 ของโลก เท่านั้น

Kilima Steps

ไดฟ์ไซต์ที่มีแนวทรายและปะการังค่อยๆ ไล่ระดับจากความลึก 8-10 เมตร ลงไปทีละน้อยๆ จนถึง 25 เมตรให้ landscape แปลกตา และเต็มไปด้วยปลาตามแนวปะการังอย่างปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง กัดแทะก้อนปะการัง ส่งเสียงกันวุ่นวาย ทากปุ่มทากเปลือยคลานกันขวักไขว่ ปลาการ์ตูนดูแลไข่อยู่ในกอดอกไม้ทะเล รวมถึงปลา Palette Surgeon Fish (ที่เป็นที่รู้จักในการ์ตูนเรื่อง Finding Nemo) ที่มีสีสันโดดเด่น นับเป็นไดฟ์ไซต์ที่มาดำน้ำได้อย่างเพลิดเพลินไม่มีเบื่อ

แต่ยิ่งกว่านั้น ที่นี่ยังเป็นจุดที่มีโอกาสได้พบกับฉลามหางยาวประจำถิ่น ที่มักจะขึ้นมาหาปลาพยาบาลช่วยทำความสะอาดร่างกายให้ด้วย แค่ต้องมาให้เช้าหน่อย และลงไปให้ลึกพอประมาณ ก็อาจจะได้พบสบตากันบ้าง (แต่ถ้าจะเอาแบบชัวร์ ไปดำน้ำที่มาลาปัสกัว (Malapascua) เลยน่าจะดีกว่านะ)

Sabang Wrecks

ไดฟ์ไซต์ที่มักถูกใช้เป็น check up dive เพราะเป็นไดฟ์ไซต์ที่อยู่ใกล้หาด ไล่ระดับจาก 8 เมตรไปจนถึงเรือจมที่ความลึกประมาณ 18-20 เมตรเท่านั้น แต่เรือจมเล็กๆ 3 ลำที่นี่กลับมีสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยให้ชมได้ตลอดทั้งไดฟ์ ไม่มีเบื่อ ทั้งกุ้งพยาบาล กุ้งมดแดง ทากปุ่มทากเปลือย ฝูงลูกปลาดุกทะเล แต่ที่น่าสนใจมากคือ ปลากบที่มีทั้งตัวเล็กอย่าง clown frogfish และตัวใหญ่อย่าง giant frogfish ด้วยทัศนวิสัย 15+ เมตรก็จัดเป็น check up dive ที่ดีกว่าทั่วไปไม่น้อยทีเดียว

Montani

เป็นไดฟ์ไซต์สำหรับ muck diving ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก สำหรับผู้ที่ชอบการดำหาสัตว์ตัวเล็กๆ ตามพื้นทราย ด้วยความลึกไม่เกิน 18 เมตรและอยู่ในเขตที่ไม่มีกระแสน้ำแรง ที่นี่ดำได้ทั้งกลางวันและกลางคืน บนพื้นทรายที่มีหญ้าทะเลกระจายทั่วไป คุณจึงมีโอกาสได้พบเจอสัตว์พื้นทรายหลากหลายชนิด รวมถึงทากตัวน้อยที่ชอบอยู่บนใบหญ้าทะเลด้วย

ที่นี่เป็น 1 ในจุดดำ muck dive ที่ดีที่สุดใน Puerto Galera ที่รอคอยนักดำน้ำมาเพิ่มสถิติการค้นพบสัตว์แปลกหายากต่อไป

Giant Clams

อีกหนึ่งไดฟ์ไซต์ชื่อดังของฟิลิปปินส์ที่นักดำน้ำจะได้พบกับหอยมือเสือขนาดยักษ์จำนวนประมาณ 25 ตัวที่ความลึก 5 เมตรเท่านั้น รวมถึงฟองน้ำตะกร้า (basket sponge) ขนาดใหญ่ ซึ่งพบที่นี่เป็นจำนวนมากมาย และเมื่อลัดเลาะลงไปมองตามพื้นทราย ก็จะได้พบกับสัตว์ที่ชอบอาศัยอยู่ตามพื้นทราย อย่าง ornate ghost pipefish, dragon sea moth, mimic octopus, wunderpus, flamboyant cuttlefish, warty frogfish, hairy frogfish

บริเวณที่มีหอยมือเสือขนาดใหญ่อนุญาตให้ดำน้ำลึกหลังเวลา 4 โมงเย็นเป็นต้นไป ส่วนเวลาก่อนหน้านั้นเปิดโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไปได้ดำน้ำตื้นเท่านั้น

Secret Bay หรือ Boat Yard

เป็นไดฟ์ไซต์ปากอ่าวเล็กๆ ซึ่งเป็นที่จอดเรือหลบลม อยู่ใกล้ๆ กับ Giant Clams และเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดำพื้นทรายเช่นกัน ที่นี่มีโอกาสจะได้พบกับสัตว์พื้นทรายที่หายากและหลากหลาย เช่น ม้าน้ำ, scorpionfish หลากชนิด, dragon sea moths, Indian Ocean walkman, dwarf frogfish, harlequin shrimp, blue ring octopus, และ flamboyant cuttlefish

เกาะเวอร์เด (Verde Island)

เป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่ที่เกิดจากภูเขาไฟ มีหมู่บ้านเล็กๆ และหาดทรายขาวยาวกว่า 1 ก.ม. ได้รับการประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ทางทะเล (marine reserve) มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1988

โลกใต้น้ำที่นี่สวยงามมาก มีแนวปะการังกินพื้นที่กว้างใหญ่รอบเกาะ น้ำใส ปะการังอุดมสมบูรณ์ กัลปังหาต้นใหญ่กระจายไปทั่วทั้งที่ตื้นและที่ลึก ปลาและสัตว์มากมายทั้งว่ายและคลานอยู่ตามแนวปะการัง รวมถึงฝูงปลาทั้งกะมง (trevally) บาราคูด้า (barracuda) และทูน่า (tuna) พบได้กลางน้ำไม่ไกลจากแนวปะการัง บางครั้งแมนต้าเรย์และฉลามวาฬก็ว่ายผ่านมาให้นักดำน้ำได้ยลโฉมอยู่เรื่อยๆ ตามไดฟ์ไซต์ต่างๆ รอบเกาะ

บางคนเรียกที่นี่ว่า The Centre of the Centre of the Marine Biodiversity of the World

ไดฟ์ไซต์ที่เกาะนี้ เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่มีประสบการณ์แล้วเท่านั้น เพราะทุกแห่งมักจะมีกระแสน้ำแรง และมีโอกาสเจอกระแสน้ำปั่นป่วนหลายแบบ ทั้ง down current, up current หรือ washing machine current ร้านดำน้ำจึงมักจะประเมินความสามารถของนักดำน้ำจากไดฟ์แรกๆ ก่อนจะพามาดำที่เกาะนี้

การมาดำน้ำที่ Verde Island มักจะมาโดยเรือขนาดกลาง ใช้เวลาจาก Puerto Galera ประมาณ 40 นาทีหรือจาก Anilao ประมาณ 2 ชั่วโมง

ไดฟ์ไซต์ที่น่าสนใจของเกาะ Verde นี้ ได้แก่

Drop Off

เป็นไดฟ์ไซต์อันดับหนึ่งของที่นี่ ลักษณะบนผิวน้ำเป็นแท่งหินแหลมๆ โผล่เหนือผิวน้ำเล็กน้อย แต่ใต้น้ำลงไปเป็นแท่งหินชันกว้างใหญ่และดิ่งลึกลงไปลึกกว่า 70 เมตร น้ำใสมองเห็นได้ไกลราว 30 เมตร ปะการังสวยและหลากหลาย ฟองน้ำครกขนาดใหญ่ กัลปังหาขนาดซ่อนคน 2-3 คนได้ก็มีให้เห็น ทากปุ่มทากเปลือย pipefish กุ้ง ปู กั้งเจ็ดสี เต่ากระ มีให้เห็นทั่วไป รวมถึงปลาวัวแดร็กคูล่า (red-tooth triggerfish) และปลากะรังจิ๋ว (anthias) จำนวนมากมายมหาศาลว่ายไปทั่วกอง พร้อมปลาฝูงอย่างแม็คเคอเรล (mackerel) กะมง (jack หรือ trevally) กะพง (snapper) สร้อยนกเขา (sweetlips) และทูน่า (tuna) ที่ว่ายวนกันอยู่นอกกอง

ถ้ากระแสน้ำแรงมาก อาจได้ดำแค่ด้านเดียว และมักจะมีน้ำผุดน้ำจม (up-/down- current) แรงพอสมควร (ควรระวัง down current ที่นี่) ต้องได้ไดฟ์ไกด์ที่มีประสบการณ์จริงๆ มาช่วยนำไดฟ์ และควรมี SMB ไว้เผื่อไหลตามกระแสน้ำหลุดจากกลุ่มไป เรือจะได้มองหาได้ง่าย

ช่างภาพใต้น้ำจะถือกล้อง wide หรือ macro ก็สนุกได้ทั้ง 2 แบบ ส่วนใหญ่ก็ดำที่นี่ 2 ไดฟ์ไปเลย จะได้ไม่เสียดายโอกาส

ที่พักและร้านดำน้ำ

ก่อนจะแนะนำที่พักที่น่าสนใจในพื้นที่นี้ ขอเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงพื้นที่ชายหาดบริเวณนี้ก่อนนะ

พื้นที่ที่มีรีสอร์ตดำน้ำและร้านค้าให้บริการแบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่ใหญ่ได้แก่

1. หาดซาบัง (Sabang Beach)
2. หาดลาลากูน่า (La Laguna Beach)
3. หาดบิ๊กลาลากูน่า (Big La Laguna Beach)
4. โซนอื่นๆ

หาดซาบัง (Sabang Beach)

เป็นหาดที่ใหญ่และคึกคักที่สุดในพื้นที่นี้ มีโรงแรม รีสอร์ตดำน้ำ ร้านดำน้ำ ร้านอาหาร ให้บริการนักท่องเที่ยว ยามค่ำคืน

รีสอร์ตดำน้ำที่เป็นที่รู้จัก ให้บริการมานาน และมีมาตรฐานการบริการดีเยี่ยม ได้แก่ Atlantis Dive Resorts ซึ่งเป็นรีสอร์ตดำน้ำใหญ่ที่สุดใน Puerto Galera มีห้องพักถึง 40 ห้อง

Photo of Sabang Beach, Puerto Galera
Sabang Beach, Puerto Galera – by Andrea Albini (CC BY-SA 4.0)

หาดลาลากูน่า (La Laguna Beach)

Photo of the La Laguna beach
Photo of the La Laguna beach, by Asia Diver

เป็นหาดถัดจากหาดซาบังมาทางตะวันตก คั่นระหว่างกันด้วยผาหินและท่าเรือของ El Galleon Beach Resort ซึ่งเป็นรีสอร์ตดำน้ำขนาดใหญ่ ด้วยจำนวนห้องพักถึง 30 ห้อง

ชายหาดแห่งนี้ เล็กกว่าและไม่พลุกพล่านเท่ากับหาดซาบัง มีที่พักสำหรับนักดำน้ำอีกแห่งบนชายหาดแห่งนี้คือ La Laguna Villas Luxury Dive Resort & Spa

หาดบิ๊กลาลากูน่า (Big La Laguna Beach)

เป็นชายหาดสุดท้ายทางตะวันตกสุด หันหน้าขึ้นทิศเหนือ และมีเนินเขาเล็กๆ คั่นกับหาดลาลากูน่า ชายหาดแห่งนี้จึงค่อนข้างเงียบสงบ โดยเฉพาะในยามค่ำคืน อาจมีเพียงร้านอาหารเล็กๆ พร้อมดนตรีสดเบาๆ เพียง 1-2 ร้านเปิดให้บริการ

รีสอร์ตดำน้ำที่ตั้งอยู่ริมหาดนี้ ได้แก่ Scandi Divers และอีกสาขาหนึ่งของ La Laguna Villas Luxury Dive Resort & Spa

Photo of the Big La Laguna beach
Photo of the Big La Laguna beach, by Scandi Divers.

 

โซนอื่นๆ

นอกจากชายหาดทั้ง 3 แห่งซึ่งเป็นที่ตั้งหลักของรีสอร์ตดำน้ำในแถบนี้แล้ว ยังมีโรงแรมและรีสอร์ตดำน้ำหลายแห่งที่ตั้งอยู่บนเกาะ หรือพื้นที่ทางตะวันตกสุดของ Puerto Galera เช่น Casalay Boutique Resort ที่ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของ Batangas Channel ใกล้กับจุดดำ muck dive สำคัญของย่านนี้ คือ Montani Bay, The Boat Yard และ Giant Clams

การเดินทาง

จากประเทศไทยมีสายการบินตรงสู่มะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ หลายสายการบิน หลายเที่ยวบินต่อวัน

จากสนามบินนานาชาติ Ninoy Aquino เดินทางด้วยรถยนต์ต่ออีกประมาณ 2 ชั่วโมง ไปยังเมืองท่า Batangas เพื่อต่อเรือไปยัง Puerto Galera ซึ่งจากท่าเรือที่เมือง Batangas นี้จะมีทางเลือกหลายแบบด้วยกัน ได้แก่

1. เรือเฟอรี่ประจำทางจากท่าเรือ Batangas ไปยังท่าเรือ Balatero แล้วต่อรถรับจ้างไปยังรีสอร์ตดำน้ำที่คุณจองไว้ได้เลย จะเป็นสามล้อหรือแท็กซี่ก็แล้วแต่สะดวก

เรือเฟอรี่มีทั้งเรือธรรมดาและเรือเร็ว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง 15 นาที ส่วนการเดินทางโดยรถทอดนี้ใช้เวลาประมาณ 20 ถึง 30 นาที รวมเวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง

การเดินทางแบบนี้ถ้านับรวมจากสนามบินด้วยก็อาจจะถือว่าเหนื่อยสักหน่อย ต้องขึ้นรถ ลงเรือ แล้วก็ยังขึ้นรถอีกต่อหนึ่ง แถมท่าเรือ Batangas ก็เป็นท่าเรือขนาดใหญ่ มีการจัดการแบบสถานีขนส่งซึ่งเพิ่มความยากลำบากให้กับการลากกระเป๋าอุปกรณ์ดำน้ำไปมาในบริเวณท่าเรือพอสมควร

2. ทางเลือกใหม่ที่รวดเร็วขึ้น คือไปขึ้นเรือ water taxi แบบสาธารณะ ที่ท่าเรือ Berberabe (ออกเสียงว่า เบอ-เบ-รา-เบ) ซึ่งเป็นท่าเรือเล็กทางใต้ของ Batangas เพื่อเดินทางไปยังท่าเรือ Puerto Galera ที่อยู่ใกล้หาด Sabang มากกว่าท่าเรือ Balatero ขึ้นมาอีกนิด ใช้เวลาเดินทางโดยเรือประมาณ 30-40 นาทีและต่อรถอีกประมาณ 20 นาที ประหยัดเวลาได้อีกนิดหน่อย นับว่าสะดวกกว่าทางเลือกแรกแม้จะไม่มากนัก

3. ทางเลือกที่รวดเร็วที่สุดคือการเดินทางด้วยเรือ water taxi แบบเช่าเหมาลำเฉพาะกลุ่มตัวเอง ตรงไปยังรีสอร์ตเลย ใช้เวลาประมาณ 30 ถึง 40 นาทีเท่านั้น มีท่าลงเรือหลายแห่งเช่น ท่าเรือ Berberabe และ ท่าเรือ Red Sun Resort ใกล้ๆ Simlong เป็นต้น

ข้อจำกัดของ water taxi คือ ห้ามการเดินเรือหลัง 6pm ดังนั้นหากแผนการเดินทางไม่เอื้ออำนวย คุณอาจต้องขึ้นเฟอรี่แทน

ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง

ระหว่างมะนิลาถึงท่าเรือเมือง Batangas ถ้าให้รีสอร์ตหรือเอเจนท์ทัวร์จองรถแท็กซี่ให้อาจอยู่ 5,500-6,000 เปโซ แต่อาจลองหาจากกลุ่มหารถหรือแชร์รถ Batangas ใน Facebook ก็ได้ อาจจะหาได้ราคาที่ 3,000 ถึง 3,500 เปโซ (ต้องรับความเสี่ยงต่างๆ เองนะ)

ค่าเรือเฟอรี่จาก Batangas ถึง Balatero อยู่ระหว่าง 600 ถึง 1000 เปโซ

ถ้าเป็น water taxi อยู่ที่ 12,000 เปโซสำหรับ 1-10 คนแรก คนที่เพิ่มมากกว่านั้นคิดคนละ 500 เปโซ