Freedive ในทะเลใสๆ มันมีอะไรที่ เกาะสุรินทร์

เกาะสุรินทร์ เป็นที่ที่แรก ที่ทำให้ผมสนใน freedive ตอนนั้นยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าจะดำน้ำลงไปได้ยังไงโดยไม่ต้องใส่เสื้อชูชีพ ได้แต่ลอยอยู่บนผิวน้ำ แต่ก็ยังรู้สึกทึ่งกับความสวยงามที่อยู่ใต้ทะเลมาก ถ้าใครได้ไปจะรู้สึกคุ้มค่าที่ได้ไปแน่นอน

แนะนำ เกาะสุรินทร์

หมู่เกาะสุรินทร์เป็นที่ที่มีน้ำทะเลสวยงาม และปะการังมากมาย เป็นอุทยานแห่งชาติ ในพื้นที่ของ อ.คุระบุรี จ.พังงา ใช้เวลานั่งเรือจากท่าเรือคุระบุรีไปถึงเกาะประมาณ 1 ชั่วโมง มีที่พักบนเกาะหลักๆ 2 ที่ คือ ที่อ่าวช่องขาด และ อ่าวไม้งาม ประกอบด้วยเกาะต่างๆ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะมังกร เกาะสตอร์ค และเกาะตอริลลา

จุดดำน้ำ freedive และ snorkelling เกาะสุรินทร์

  • อ่าวช่องขาด – เป็นจุดดำน้ำที่อยู่ใกล้ๆ เกาะสุรินทร์เหนือซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยาน เป็นจุดที่มีปะการังและปลามากมาย
  • อ่าวแม่ยาย – เป็นจุดที่คลื่นไม่แรง เพราะมีเกาะบังลมไว้ และอยู่ใกล้อ่าวช่องขาด เลยได้ไปดำจุดนี้บ่อยๆ แต่ตอนนี้ปิดเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟู
  • อ่าวสุเทพ – อยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะ เป็นอีกจุดที่ปะการังสวย บรรยากาศมีลักษณะเฉพาะ ซึ่งแตกต่างจากจุดอื่น มีกัลปังหาสวยๆ อยู่ที่ความลึกประมาณ 10 เมตร
  • อ่าวบอน – จุดนี้อยู่ใกล้กับอ่าวช่องขาด ใกล้ๆกับหมู่บ้านชาวมอแกน
  • อ่าวไทรเอน – อยู่ทางไปเกาะสตอร์ค เป็นอีกที่หนึ่งที่ปะการังสวยงาม บนชายฝั่งของอ่าวมีต้นไทรมากเลยได้ชื่อว่าอ่าวไทรเอน เมื่อก่อนชาวมอแกนอาศัยอยู่ที่อ่าวนี้ แต่หลังจากเหตุการณ์สึนามิถล่ม ก็ย้ายไปอยู่ที่อ่าวบอนแทน
  • เกาะสตอร์ค – อยู่ด้านเหนือของเกาะสุรินทร์ เป็นเกาะที่สามารถมองเห็นชายแดนพม่าได้มากที่สุด ปัจจุบันเป็นเขตอนุรักษ์ของอุทยาน
  • อ่าวเต่า – เป็นจุดที่มีแนวปะการังสวยงาม เป็นที่วางไข่ของเต่า เลยได้เห็นเต่าบ่อยๆ
  • อ่าวผักกาด – อ่าวนี้อยู่ถัดมาจากอ่าวเต่า มีปะการังและปลามากมายหลายชนิด ถ้าไปจุดที่น้ำตื้นควรระวังปะการังเวลาว่ายน้ำ
  • เกาะตอริลลา – เป็นจุดดำน้ำที่กว้าง และมีกองหินใต้น้ำที่สวยมาก มีปะการังเขากวางและปลาหลากหลายชนิด แต่ที่นี่มีกระแสน้ำแรงควรใช้ความระมัดระวังในการดำน้ำ
  • หินแพ – เป็นกองหินอยู่กลางทะเล ปกติกระแสน้ำค่อนข้างแรง มีกัลปังหาใหญ่อยู่ตรงโขดหิน บางวันที่อากาศดีน้ำจะใส เหมือนว่ายในสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
  • อ่าวกระทิง – เป็นอ่าวที่อยู่ทางไปอ่าวไม้งาม เป็นจุดดำน้ำที่ตื้นมาก ไม่มีปะการังแต่มีหญ้าทะเลเยอะเลยเป็นจุดที่พบเจอเต่าเยอะมาก

การเดินทางไป เกาะสุรินทร์

ก่อนไปจองตั๋วเรือไป-กลับของบริษัทซาบีน่า ราคา 1,700 บาท (มัดจำ1,000 บาท) แล้วโทรไปแจ้งก่อนวันเดินทาง 1 วันเพื่อที่บริษัทจะส่งรถมารับที่ บขส. ตอนเดินทางไปถึง

เริ่มต้นการเดินทางจากขนส่งสายใต้ โดยจองตั๋วรถทัวร์ของลิกไนท์ทัวร์ (VIP) สายกรุงเทพฯ – คุระบุรี ราคาประมาณ 900 บาท รถออก 1 ทุ่ม นั่งดูวิวข้างทางมาเรื่อยๆ พอดึกก็หลับ รถจะจอดพักตอนประมาณเที่ยงคืน ลง มายืดเส้นยืดสายเข้าห้องน้ำแล้วนั่งรถต่อมาถึง บขส. คุระบุรี ประมาณ 6 โมงเช้า

จะมีรถสองแถวของซาบีน่ามารับ ไปส่งที่บริษัทซึ่งอยู่ใกล้ๆกับท่าเรือคุระบุรี โดยเราจะจ่ายเงินค่าตั๋วเรือที่เหลือ สามารถเช่าอุปกรณ์ดำน้ำทและจองเต็นท์ได้ที่นี่ ค่าเต็นท์คืนละ 450 บาท

หรือถ้าต้องการนอนบ้านพักอุทยานสามารถจองในเว็บไซต์ของอุทยานได้ (ต้องจองก่อนมาถึงเกาะ) และจองรถตู้ไปส่งสนามบินภูเก็ตตอนขากลับ (ที่ไม่นั่งรถทัวร์ตอนขากลับเพราะเหนื่อยมาก)

หลังจากนั้นก็รอเวลาไปขึ้นเรือ เรือสปีดโบ๊ทจะออกจากท่าประมาณ 9 โมงเช้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงเกาะสุรินทร์ น้ำทะเลสีสวยชัดเจนต่างจากทะเลที่อื่น ก่อนเข้าไปที่พักต้องเปลี่ยนเรือ เป็นเรือหางยาวไปขึ้นเกาะ มีที่พัก 2 ที่คือ อ่าวช่องขาด กับ อ่าวไม้งาม

พอขึ้นเกาะก็ไป เช็คอิน กับอุทยาน แล้วเอาของไปเก็บที่เต็นท์ กินข้าว เตรียมตัวไปดำน้ำรอบบ่าย เวลาไปดำน้ำจะมี 2 รอบ คือเช้ากับบ่าย มีทั้งของอุทยานกับของซาบีน่า ราคาค่าดำน้ำ รอบละ 150 บาท

อุปกรณ์ดำน้ำ สามารถเช่าได้ที่อุทยาน แต่บางครั้ง ถ้าคนมาเที่ยวมากๆ อุปกรณ์ก็จะไม่พอ ราคาข้าวบนเกาะราคาประมาณ 100 บาท มีน้ำดื่มให้ฟรี แต่ห้ามกรอกใส่ขวดไป ข้อดีของเกาะสุรินทร์คือ คนมาเที่ยวไม่มากเมื่อเทียบกับ เกาะสิมิลัน ทำให้บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน

สัญญาณมือถือที่อ่าวไม้งามไม่ค่อยดี มาๆหายๆ ที่โรงอาหารมี wifi ให้ใช้แต่ถ้าคนใช้มากๆก็จะช้าเลยจำกัดจำนวนคนที่ใช้ หลังจากใช้ชีวิตบนเกาะ กิน นอน ดำน้ำเล่น มาหลายวันก็ถึงเวลากลับ จะมีเรือหางยาวมารับไปขึ้นสปีดโบ๊ท ที่อ่าวช่องขาด กลับมาถึงฝั่งประมาณ 4-5 โมงเย็น ก็นั่งรถตู้ที่จองไว้ เพื่อไปสนามบินภูเก็ต

รถตู้จะมาส่งที่สนามบินประมาณ 1 ทุ่ม ควรจองตั๋วเครื่องบินเที่ยงหลังสองทุ่มขึ้นไป เผื่เวลาเช็คอิน ถ้าเอาฟินมาด้วย ถ้ากระเป๋าใส่ฟิน ยาวไม่เกิน 1 เมตรก็สามารถเอาขึ้นเครื่องได้ ใช้เวลานั่งเครื่องบินประมาณ 2 ชั่วโมงก็จะกลับมาถึงกรุงเทพฯ

สรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆ

ค่าตั๋วเรือไป-กลับ ของซาบีน่า 1700 บาท

ค่าเช่าเต็นท์ คืนละ 450 บาท

ค่าดำน้ำ เช้า-บ่าย รอบละ 150 บาท

ค่ารถทัวร์ ประมาณเที่ยวละ 700 บาท แล้วแต่ชนิดของรถ

ค่ารถตู้ 500 บาท

ค่าตั๋วเครื่องบินเฉลี่ยประมาณ 1200 บาท (ถ้าช่วงมีโปรโมชั่นก็จะราคาถูก)