Suunto Ocean หรือ Garmin Descent G2 ดี? เทียบกันชัดๆ ทุกฟีเจอร์

ในโลกของอุปกรณ์ดำน้ำยุคใหม่ ทั้ง Suunto Ocean และ Garmin Descent G2 ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักดำน้ำที่กำลังมองหาคอมพิวเตอร์ดำน้ำแบบนาฬิกาที่ใช้งานได้ทั้งในน้ำและบนบก บทความนี้จะสรุปข้อมูลจากรีวิวต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบจุดเด่นและจุดด้อยของทั้งสองรุ่นในแง่มุมต่างๆ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

1. ดีไซน์และคุณภาพของหน้าจอ

• Suunto Ocean มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ที่ใหญ่กว่าอย่างเห็นได้ชัด หน้าจอมีความสว่างและคมชัดสูง ทำให้ข้อมูลใต้น้ำหรือในที่แสงจ้าอ่านได้ง่ายสบายตา ตัวเรือนใช้วัสดุพรีเมียมอย่างกระจกแซฟไฟร์และกรอบสแตนเลสสตีล ให้ความรู้สึกหรูหราและทนทาน
• Garmin Descent G2 มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.2 นิ้ว ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็ยังคงความสว่างและคมชัดไว้ได้ดี ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการนาฬิกาที่มีขนาดกะทัดรัดกว่า ตัวเรือนมาในสไตล์สปอร์ตที่แข็งแกร่ง และมีจุดเด่นเรื่องวัสดุที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิลจากมหาสมุทร ซึ่งเป็นแนวคิดที่น่าชื่นชม

2. ความสามารถในการดำน้ำ

• Suunto Ocean ใช้ Bühlmann 16 GF algorithm ที่นักดำน้ำเทคนิคหลายคนคุ้นเคยและสามารถปรับค่า Gradient Factor ได้เองอย่างละเอียด ทำให้เหมาะกับผู้ที่ต้องการตั้งค่าความปลอดภัยตามสไตล์การดำน้ำของตัวเอง นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อกับ Suunto Tank POD เพื่อดูแรงดันอากาศในถังได้โดยตรง

ในแง่ของความลึก Suunto Ocean มี “ความลึกปฏิบัติการสูงสุด” (maximum operating depth) ที่ 60 เมตร (197 ฟุต) ซึ่งหมายถึงความลึกที่คอมพิวเตอร์ดำน้ำถูกออกแบบมาให้คำนวณการหยุดลดความดัน (decompression) และการหยุดเพื่อความปลอดภัย (safety stops) ได้อย่างแม่นยำตามอัลกอริทึมภายใน

ขณะที่ “ความลึกกันน้ำ” (waterproof) ที่ 100 เมตร (330 ฟุต) หมายถึงความลึกที่อุปกรณ์ถูกออกแบบมาให้ทนต่อแรงดันน้ำได้โดยไม่เสียหาย กล่าวโดยสรุปคือ คุณสามารถนำตัวเรือนลงไปลึกกว่า 60 เมตรได้ แต่การทำงานของคอมพิวเตอร์ดำน้ำจะรับประกันความแม่นยำเฉพาะที่ความลึกไม่เกินขีดจำกัดนั้นเท่านั้น

ข้อจำกัดที่สำคัญอีกอย่างคือ ไม่รองรับการดำน้ำแบบ Trimix

• Garmin Descent G2 มาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครันกว่ามาก โดยรองรับการดำน้ำแบบ Trimix และ CCR (Closed Circuit Rebreather) ซึ่งตอบโจทย์นักดำน้ำเทคนิคขั้นสูงได้อย่างเต็มที่ ถึงแม้จะไม่มี Air Integration มาในตัวเหมือน Suunto แต่ก็ใช้ Bühlmann ZHL-16c algorithm ที่น่าเชื่อถือเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ “Dive Readiness” ที่ช่วยประเมินความพร้อมของร่างกายก่อนดำน้ำ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

3. ฟีเจอร์อัจฉริยะและการใช้งานในชีวิตประจำวัน

• Suunto Ocean ทำหน้าที่เป็นสมาร์ทวอทช์ได้ดีในระดับหนึ่ง โดยมีโหมดกีฬามากกว่า 95 โหมด และสามารถติดตามสุขภาพพื้นฐาน เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและการนอนหลับได้ แต่จุดที่โดดเด่นคือฟีเจอร์ Underwater Route Tracking ที่บันทึกเส้นทางการดำน้ำเป็นแบบ 3D ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจมาก
• Garmin Descent G2 ถือเป็นสมาร์ทวอทช์ที่มีฟังก์ชันครบครันกว่าอย่างชัดเจน ด้วยระบบติดตามสุขภาพขั้นสูง เช่น Pulse Ox, Body Battery และ VO2 Max รวมถึงฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอย่าง Garmin Pay และการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนที่ทำงานได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังสามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างละเอียดเทียบเท่ากับสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ ของ Garmin

4. แบตเตอรี่และราคา

• Suunto Ocean มีจุดแข็งเรื่องอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าประทับใจ สามารถดำน้ำได้นานถึง 60 ชั่วโมง และใช้งานในโหมดนาฬิกาได้ยาวนานถึง 26 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ก็มีราคาค่อนข้างสูงกว่าคู่แข่ง
• Garmin Descent G2 มีอายุแบตเตอรี่ที่น่าพอใจ สามารถดำน้ำได้ 27 ชั่วโมง และใช้งานในโหมดนาฬิกาได้ 10 วัน ซึ่งแม้จะไม่เท่า Suunto แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานส่วนใหญ่ และที่สำคัญคือมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับฟังก์ชันที่ให้มา

5. ข้อดีและข้อด้อย

บทสรุป

การเลือกระหว่าง Suunto Ocean และ Garmin Descent G2 ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และลำดับความสำคัญของคุณเป็นหลัก ถ้าคุณคือนักดำน้ำที่เน้นการดำน้ำสันทนาการเป็นหลัก ชื่นชอบดีไซน์สวยๆ หน้าจอใหญ่ๆ และอยากได้อุปกรณ์ที่มีอายุแบตเตอรี่ทนทานเป็นพิเศษ Suunto Ocean คือตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ถ้าคุณคือนักดำน้ำที่ต้องการฟังก์ชันการดำน้ำขั้นสูงอย่าง Trimix, มีไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟ และต้องการอุปกรณ์ที่ครบเครื่องทั้งในน้ำและบนบกในราคาที่สมเหตุสมผล Garmin Descent G2 อาจเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ได้มากกว่า

• Facebook
• Twitter
• Line