นักท่องเที่ยวที่เดินตามชายหาดอาจเคยพบเห็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างกลมแบน สีฟ้าสดใส ลอยอยู่บนผิวน้ำ สิ่งนั้นคือ “แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์” หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า “กระดุมสีฟ้า” แม้จะดูน่ารักแปลกตา แต่จริง ๆ แล้วมีความลับซ่อนอยู่มากกว่าที่เห็น ตั้งแต่โครงสร้างที่ไม่ใช่แมงกะพรุนแท้ๆ ไปจนถึงหนวดพิษที่สัมผัสแล้วอาจแสบผิวได้
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับแมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์กัน
ไม่ใช่แมงกะพรุนแท้ แต่ทำไมจึงถูกเรียกว่าแมงกะพรุน?
แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์ หรือกระดุมสีฟ้า (Blue button) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Porpita porpita
จัดอยู่ในไฟลัม Cninaria คลาส Hydrozoa แฟมิลี่ Porpitidae
แม้จะถูกเรียกว่า “แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์” แต่จริง ๆ แล้วสิ่งมีชีวิตนี้ ไม่ใช่แมงกะพรุนแท้ เพราะมันไม่ได้อยู่ในคลาส Scyphozoa ที่เป็นกลุ่มของแมงกะพรุนจริงๆ แต่จัดอยู่ในคลาส Hydrozoa ซึ่งมีโครงสร้างแตกต่างกัน
ด้วยลำตัวที่แบน มีหนวดพริ้วๆ ทำให้ดูคล้ายแมงกะพรุนขนาดเล็กลอยน้ำ อีกทั้งพฤติกรรมการลอยตัวตามกระแสน้ำก็ดูคล้ายกับแมงกะพรุนมาก คนทั่วไปจึงเรียกตามลักษณะภายนอกเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจ
รูปร่างเป็นอย่างไร?
รูปร่างประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก
- ส่วนลำตัว มีลักษณะแบน แข็ง สีฟ้าหรือน้ำเงินอมเขียว มีแก๊สอยู่ตรงกลางช่วยให้ลอยน้ำ
- ส่วนหนวด (Hydroids) คล้ายหนวดแมงกะพรุน มีสีฟ้าสว่างถึงเหลือง ประกอบด้วย เซลล์เข็มพิษ (Nematocyst) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแสบหรือระคายเคืองหากสัมผัส ด้านล่างของลำตัว มีปากสำหรับดักจับอาหารและขับถ่ายของเสีย
มีการดำรงชีวิตอย่างไร?
แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์มักอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ล่องลอยตามกระแสน้ำในทะเล เปิดปากด้านล่างเพื่อจับอาหารอย่างแพลงก์ตอน ไข่สัตว์น้ำ และปลาขนาดเล็ก
การสืบพันธุ์
มีทั้งเพศผู้และเพศเมียในตัวเดียวกัน (Hermaphrodite) เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ จะปล่อยไข่และสเปิร์มลงในน้ำเพื่อผสมภายนอก ทำให้เกิดตัวอ่อนจำนวนมาก
จะพบมันได้ที่ไหน?
พบได้ทั่วไปในเขตร้อนของมหาสมุทรแปซิฟิก แอตแลนติก และมหาสมุทรอินเดีย
ในประเทศไทย พบได้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและทะเลอันดามัน โดยเฉพาะช่วงมรสุมที่มีคลื่นลมแรง
อ่าวไทย
พบในพื้นที่จังหวัดตราดในเดือนมีนาคม จังหวัดจันทบุรีพบในเดือนกุมภาพันธ์ จังหวัดชุมพรพบในเดือนธันวาคม จังหวัดสุราษฏร์ธานีพบในเดือนพฤศจิกายน จังหวัดนครศรีธรรมราชพบช่วงต้นลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และจังหวัดสงขลาพบตลอดช่วงลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (พย.–เมย.)
ทะเลอันดามัน
พบในพื้นที่จังหวัดพังงาช่วงต้นและกลางลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และจังหวัดภูเก็ตพบช่วงต้นและกลางลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
เมื่อปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 มีการพบแมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์จำนวนมากถูกพัดเกยหาดอ่าวทุ่งซาง จ.ชุมพร ระยะทาง 280 เมตร พบมากถึง 2,252 ตัวต่อตารางเมตร ขนาดลำตัวประมาณ 0.6–2.0 ซม.
มีอันตรายหรือไม่?
โดยทั่วไป แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์ไม่มีพิษร้ายแรง แต่หากผู้สัมผัสมีอาการแพ้ อาจรู้สึกแสบ ร้อน หรือระคายเคือง ให้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นโดยใช้น้ำส้มสายชู (ความเข้มข้น 4–6%) ราดบริเวณที่สัมผัสอย่างน้อย 30 วินาที หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว
แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์อาจดูเหมือนสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่ไร้พิษภัย แต่กลับซ่อนความน่าทึ่งของวิวัฒนาการไว้ ทั้งรูปร่าง สีสัน การดำรงชีวิตแบบลอยไปตามกระแสน้ำ และระบบสืบพันธุ์อันชาญฉลาด สำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้รักธรรมชาติ การรู้จักและเข้าใจสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ อาจทำให้เราชื่นชมธรรมชาติได้ลึกซึ้งขึ้น
อ้างอิงจาก:
สาระน่ารู้ ทช.: แมงกะพรุนแว่นตาพระอินทร์
คลังความรู้ ทช.: แมงกะพรุนกลุ่ม Hydrozoa