7 สกิลที่ต้องร้องโอ้โห!… ของเจ้าหมึก Octopus

พูดถึงปลาหมึก หลายคนคงนึกถึงหมึกย่างเสียบไม้กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บ…

แต่ต่อจากนี้… ขอให้คุณลืมภาพปลาหมึกที่เป็นอาหารไปได้เลย เพราะหมึกที่มีชีวิตอยู่ในทะเลนั้นเจ๋งกว่ามาก !

ในบรรดาหมึกประเภทต่างๆ เช่น หมึกกล้วย(Squid), หมึกกระดอง(Cuttlefish) และ หมึกสาย (หมึกยักษ์)(Octopus) เจ้าชนิดหลังมีสกิลโดดเด่นกว่าใครเพื่อน จนได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังที่ฉลาดที่สุด และมีความสามารถพิเศษที่ Marvel ควรเอาคาแรกเตอร์ไปสร้างหนัง

ความเก่งของเจ้าหมึกสายมีอะไรบ้างนั้น…. ไปดูกันเลย…

1. พรางตัวเก่ง…

เหล่าหมึกทั้งหลายได้ชื่อว่าเป็นเทพแห่งการพรางตัว พวกมันสามารถเปลี่ยนสีและลวดลายให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างแนบเนียนสุดๆ อย่างเช่นในวิดีโอนี้ ดูเผินๆ เหมือนมีแค่กอสาหร่าย แต่พอนักดำน้ำว่ายเข้าไปใกล้ๆ… อ้าว! เฮ้ย!… ตรงนั้นมันมีหมึกสายแอบซ่อนตัวอยู่นะจ๊ะ (แต่เราไม่รู้บ้างเลย)

และไม่ใช่แค่สีเท่านั้น แต่หมึกสายชนิดหนึ่งที่ชื่อ Mimic Octopus ยังสามารถ ‘เลียนแบบ’ ท่าทางการว่ายน้ำ และการเคลื่อนไหวให้ดูคล้ายกับสัตว์มีพิษในทะเลชนิดอื่นๆ เช่น เวลาอยู่ที่พื้นทะเลก็จะทำตัวคล้ายปลาลิ้นหมา ถ้าว่ายอยู่กลางน้ำก็จะทำตัวคล้ายปลาสิงโตหรืองูทะเล ซึ่งนักวิทยาศาสตร์พบว่า เจ้าหมึกชนิดนี้สามารถเลียนแบบสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ได้อย่างต่ำ 15 ชนิด !!

2. หนีเก่ง

“กักขังฉันเถิดกักขังไป… ขังได้ ฉันก็หนีได้โว้ย” หมึกสายไม่ได้กล่าวไว้

ความสามารถในการหลบหนีของหมึกสายนั้นเป็นที่เลื่องลือ เพราะมันสามารถทำตัวให้นิ่มจนลอดผ่านรูแคบๆ ได้ (ขอเพียงรูนั้นใหญ่กว่าลูกตาของมัน) วีรกรรมของพวกนางมีตั้งแต่หนีจากเรือออกสู่ทะเลผ่านทางช่องระบายน้ำเล็กๆ ไปจนถึงเคสการหลบหนีของหมึกสายในตำนานที่ชื่อ Inky แห่ง National Aquarium ประเทศนิวซีแลนด์ ที่ใช้จังหวะยามค่ำคืนที่ฝาแท็งก์ถูกแง้มไว้ ปีนหนีออกมาแล้วคลานไปที่ท่อระบายน้ำ บีบตัวผ่านท่อที่มีความยาว 50 เมตร จนไปถึงมหาสมุทร

นอกจากหนีจากการถูกกักขังโดยมนุษย์แล้ว ในทะเลมันก็มีเทคนิคการหนีจากศัตรูที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน อย่างหมึกสายที่ชื่อ Octopus berrima มันสามารถพ่นน้ำใส่ทราย เพื่อเปลี่ยนทรายให้กลายเป็นทรายดูด ใช้เป็นหลุมหลบภัยซ่อนตัว โดยมีชั้นเมือกที่มันสร้างขึ้นมาเป็นผนัง

Octupus berrima

Octupus berrima

3. สู้เก่ง

ในสารคดี Blue Planet 2 มีฉากหนึ่งที่หมึกสายถูกฉลามกัดแน่น… แต่นี่หมึกสายซะอย่าง มีหรือจะยอมง่ายๆ… วิธีสู้ของพี่แกคือ ใช้หนวดเข้าไปอุดรูเหงือกของฉลาม ทำให้ฉลามหายใจไม่ออก จนต้องยอมปล่อยไป

4. วางแผนเก่ง

ในสารดี Blue Planet 2 ตอนเดิม… นอกจากจะสู้ยิบตาจนฉลามต้องยอมปล่อยแล้ว พอมันหนีมาได้ มันก็มีวิธีหลบซ่อนที่ไม่ธรรมดา นั่นคือการใช้เปลือกหอยหลายๆ อันมาคลุมตัวมิดจนดูราวกับเป็นกองเปลือกหอย

ส่วนหมึกชนิดหนึ่งที่ชื่อ Coconut Octopus ก็ขึ้นชื่อเรื่องการหนีบกะลามะพร้าวหรือเปลือกหอยไปไหนมาไหน เพื่อใช้เป็นที่หลบซ่อนตัวจากศัตรู รวมถึงซ่อนตัวเพื่อซุ่มโจมตีเหยื่อ

นี่ถือเป็นความสามารถที่พิเศษมากๆ เพราะที่ผ่านมา สกิลการใช้เครื่องมือถูกพบแค่ในสัตว์มีกระดูกสันหลังเพียงไม่กี่ชนิด เช่น โลมา ชิมแปนซี อีกา ฯลฯ หมึกสายจึงนับเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังกลุ่มแรกและกลุ่มเดียว (เท่าที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ) ว่ามีความสามารถนี้ และไม่ใช่แค่ใช้เครื่องมือเท่านั้น แต่การที่มัน ‘พกพา’ เปลือกหอยไปไหนมาไหนด้วย แสดงถึงความสามารถในการวางแผนล่วงหน้าของการใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในอนาคต

5. แก้ปัญหาเก่ง

นอกจากจะมีความสามารถในการประยุกต์ใช้เครื่องมือตามวิถีชีวิตในธรรมชาติแล้ว ในสถานการณ์ที่ถูกจัดฉากทดลองในห้องแล็บ มันก็โชว์ความสามารถในการใช้เครื่องมือที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนได้เช่นกัน

ไม่ว่านักวิจัยจะนำมันจับใส่ขวดเกลียวหมุน มันก็สามารถเปิดเกลียวจากภายในเพื่อหนีออกมาได้ หรือเมื่อนักวิจัยใส่ขวดอาหารที่มีฝาปิดสนิทลงในตู้ของมัน เจ้าหมึกก็จะหาวิธีจนเปิดฝาออกจนได้

นอกจากนั้น หมึกสายยังมีพฤติกรรมการ ‘เล่น’ โดยนักวิจัยเคยทดลองใส่ขวดเล็กๆ ไปในตู้ที่มันอยู่ หลังจากที่มันลองเอาเข้าปากและพบว่ากินไม่ได้ แต่มันก็ยังไม่หมดความสนใจในวัตถุชิ้นนี้ และเรียนรู้ที่จะเล่นโดยพ่นน้ำใส่ขวดให้กระดอนไปมาในตู้

6. กวนตีนเก่ง

ในบรรดาห้องแล็บวิจัยหรืออควาเรียมที่มีหมึกสาย… กิตติศัพท์ความกวนตีนของมันเป็นที่รู้กันดี

มีเรื่องเล่าจากอควาเรียมอย่างน้อย 2 แห่งที่ยืนยันว่า หมึกสายสามารถปิดไฟได้… แต่ไม่ได้คลานไปที่สวิตช์หรอกนะ… เหนื่อยไป… นางใช้วิธีพ่นน้ำใส่หลอดไฟจนทำให้ไฟลัดวงจรซะเลย เหตุการณ์นี้ที่ University of Otago ประเทศนิวซีแซนด์ สร้างความเสียหายหนักจนถึงขั้นทางมหาวิทยาลัยต้องโบกมือบ๊ายบายปล่อยหมึกสายกลับลงทะเล

ส่วนเหตุผลที่มันทำแบบนี้ก็น่าจะเพราะว่า นิสัยของหมึกชอบที่มืดๆ และมักพ่นน้ำใส่สิ่งที่ทำให้มันรำคาญ… และแน่นอนว่า สิ่งที่ทำให้มันรำคาญไม่ได้มีแค่หลอดไฟ!

ณ ห้องแล็บที่นิวซีแลนด์แห่งเดิม มีเรื่องเล่าว่า หมึกสายตัวหนึ่งแสดงพฤติกรรมไม่ชอบขี้หน้าทีมงานคนหนึ่งอย่างชัดเจน ทุกครั้งที่คนนี้เดินผ่านตู้ จะถูกนังหมึกตัวนี้พ่นน้ำใส่หลังคอ

ส่วนแล็บอีกแห่งที่ Dalhousie University เวลาที่มีคนแปลกหน้ามาเยือนห้องแล็บ คนนั้นก็มักจะถูกหมึกกระดองตัวหนึ่งพ่นน้ำใส่เป็นประจำ ในขณะที่ทีมงานที่ทำงานที่นั่นไม่โดน พฤติกรรมนี้เป็นที่สนใจขนาดมีการศึกษาอย่างจริงจัง โดยการศึกษาในหมึกที่ชื่อ Giant Pacific Octopus ยืนยันว่า เจ้าหมึกสามารถจดจำผู้คนแต่ละคนได้จริงๆ แม้ว่าคนเหล่านั้นจะใส่ชุดยูนิฟอร์มแบบเดียวกันก็ตาม

ตัดภาพมาที่ห้องแล็บอีกแห่ง ซึ่งเจ้าหมึกสายตั้งใจใช้หนวดอุดรูน้ำออกเพื่อเพิ่มระดับน้ำในตู้ ผลที่ได้คือ… ห้องแล็บน้ำท่วม!!

และที่สุดแห่งความกวนตีน ต้องยกให้หมึกสายแห่งห้องแล็บที่ Millersville University รัฐเพนซิลเวเนีย นักวิจัยคนหนึ่งเล่าถึงเหตุการณ์ที่เธอจำได้ขึ้นใจว่า ปกติแล้วเธอจะให้หมึกสายกินหมึกกล้วยหรือกุ้งแช่แข็ง ซึ่งถือว่าเป็นอาหารเกรดห่วย ในขณะที่อาหารโปรดของพวกมันคือปู… มีอยู่วันหนึ่ง เธอเดินให้อาหารหมึกตามปกติ เมื่อเธอเดินให้จนครบทุกตัวและเดินกลับออกมาในทางเดิม เจ้าหมึกสายในตู้แรกดูเหมือนจะรอเธออยู่ ในหนวดของมันถืออาหารเอาไว้… ไม่ยอมกิน… เมื่อเธอเดินไปถึง มันก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตรงตำแหน่งรูน้ำออก โดยตาของมันจ้องที่เธอตลอดเวลา และเมื่อมันเคลื่อนไปถึงรูน้ำ มันก็หย่อนชิ้นอาหารลงในท่อต่อหน้าเธอ !!…. #พีค

อยากรู้อยากเห็นเก่ง

แม้ว่าหมึกที่ถูกจับมาอยู่ในห้องแล็บดูจะน่ารำคาญและสร้างปัญหามากมาย แต่สำหรับนักดำน้ำที่ได้เจอหมึกสายในธรรมชาติที่เป็นบ้านของมัน มักจะมีความทรงจำดีๆ มาเล่าให้ฟังเสมอ

สำหรับนักดำน้ำแล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเจอหมึกสายยื่นหนวดมาแตะนั่นแตะนี่บนตัวเราด้วยความอยากรู้อยากเห็น รวมถึงกล้องและอุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ ด้วย

มีเรื่องเล่าจาก Matt Lawrence ซึ่งเป็นนักวิจัยที่ไปดำน้ำในสถานที่แห่งหนึ่งบ่อยจนเป็นที่คุ้นเคยของหมึกสายแถวนั้น… มีอยู่วันหนึ่ง หมึกสายตัวหนึ่งว่ายเข้ามาใกล้ ใช้หนวดจับข้อมือเขาแล้วลากไป เขาเล่าความรู้สึกในตอนนั้นว่า “ราวกับถูกเด็กน้อยแปดขาจูงไปตามพื้นทะเล”…. การพาทัวร์โดยไกด์แปดหนวดนี้ดำเนินไปราว 10 นาที และจบสิ้นที่ถ้ำของมัน


ใต้ทะเลเต็มไปด้วยเรื่องราวมหัศจรรย์ที่คาดไม่ถึงเสมอ แม้กระทั่งทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงค้นพบความรู้ใหม่ๆ ที่ทำให้ต้องทึ่งอย่างต่อเนื่อง ขอเพียงแค่พวกเราช่วยกันดูแลทะเล ดูแลสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ให้อยู่คู่กับดาวเคราะห์ดวงนี้ไปนานๆ… ในอนาคต ใครจะรู้ว่าจะมีเรื่องตื่นเต้นชวนว้าวอะไรอีกบ้างที่จะถูกค้นพบ

ข้อมูลอ้างอิง