ฉลามกบแถบน้ำตาล (Brownbanded bambooshark;𝘊𝘩𝘪𝘭𝘰𝘴𝘤𝘺𝘭𝘭𝘪𝘶𝘮 𝘱𝘶𝘯𝘤𝘵𝘢𝘵𝘶𝘮) เป็นฉลามที่มีการกระจายพันธุ์ทั่วไปในน่านน้ำไทย แต่ปัจจุบันประชากรของพวกมันลดลงอย่างมาก จากการถูกจับเป็นสัตว์น้ำพลอยได้ (Bycatch) หรือไม่ใช่สัตว์น้ำเป้าหมายจากการทำประมง เนื่องจากเป็นฉลามขนาดเล็ก ขนาดตัวเต็มวัยมีความยาวได้ถึง 148 ซม. และอาศัยอยู่บริเวณน้ำตื้นตามชายฝั่ง บริเวณพื้นทราย ป่าชายเลน หรือแนวปะการังทำให้มักถูกจับโดยบังเอิญด้วยเครื่องมือประมงหลายประเภท ส่วนใหญ่มักจะถูกนำไปขายในตลาดอาหารทะเล หรือถูกนำไปทำเป็นเมนูอาหาร ตามที่เราได้เห็นผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
จากการเก็บข้อมูลของศูนย์พัฒนาการประมงแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAFDEC) ใน 6 ประเทศระหว่างปี 2015-2016 พบฉลามกบแถบน้ำตาลเป็นฉลามที่ถูกจับขึ้นฝั่งท่าเรือประมงมากที่สุด พบที่ประเทศไทยมากที่สุดตามมาด้วย มาเลเซีย, กัมพูชา, เวียดนาม, อินโดนีเซียและเมียนมา และถือเป็นหนึ่งในชนิดพันธุ์ฉลามที่ถูกจับจากการทำประมงชายฝั่งที่พบเห็นได้บ่อยสุดในภูมิภาคนี้ สถานการณ์ดังกล่าวน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันฉลามกบแถบน้ำตาลเป็นชนิดพันธุ์ที่อาจมีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์ในอนาคต (Near Threatened; NT) ตามการประเมินของ IUCN Red List
และนอกจากนี้ เรายังพบฉลามชนิดพันธุ์นี้จากตัวอย่างครีบปลาฉลามที่ถูกนำไปทำเมนูหูฉลามขายในประเทศไทย จากรายงานผลวิจัยดีเอ็นเอเพื่อระบุชนิดพันธุ์ปลาฉลามจากผลิตภัณฑ์หูฉลามที่ขายในประเทศไทยโดยองค์กรไวล์ดเอดและนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.)
ฉลามทุกชนิดพันธุ์มีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล ช่วยรักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหารและควบคุมประชากรสัตว์น้ำอื่น ๆ เราขอเชิญชวนทุกคน #ฉลองไม่ฉลาม หยุดเมนูคุกคามระบบนิเวศ และร่วมกันไม่สนับสนุนทุกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฉลามอีกด้วย
บทความจาก Facebook: WildAid Thailand ช่วยสัตว์ป่า