Overfishing - WildAid - 003

‘ทำประมงเกินขนาด’ สาเหตุหลักทำให้ ‘ประชากรฉลาม’ เสี่ยงสูญพันธุ์

ถึงแม้ว่า ‘ฉลาม’ จะไม่ใช่สัตว์น้ำเป้าหมายหลักในการทำประมง และประเทศไทยไม่มีเครื่องมือประมงที่ใช้จับฉลามโดยเฉพาะ แต่ถึงอย่างนั้น ฉลามยังคงถูกจับโดยบังเอิญหรือเป็นผลพลอยได้ (bycatch) จากเครื่องมือประมงหลายประเภท โดยกว่า 80% ถูกจับโดยบังเอิญจากอวนลากแผ่นตะเฆ่ รองลงมาคือ อวนลากคู่ ที่เหลือถูกจับจากเครื่องมือประมงจับสัตว์น้ำเชิงพาณิชย์ที่ใช้จับปลาทูน่าและปลาดาบ เช่น เบ็ดราว (longline fishing) อวนล้อมจับ (purse seine net fishing) หรืออวนลอยปลาแมคเคอเรล

Overfishing - WildAid - 001

แม้การจัดระเบียบการประมงจะยังคงเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง แต่ในเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา ได้มีความพยายามในการเสนอร่างกฎหมายประมงฉบับใหม่ พ.ร.ก. ประมง พ.ศ. 2558 มาตรา 69 ที่อนุญาตให้ใช้อวนตาถี่ขนาดเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรในการทำประมงประกอบไฟล่อในเวลากลางคืน นอกเขต 12 ไมล์ทะเล หากกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้ก็อาจทำให้ปัญหาการจับสัตว์น้ำโดยบังเอิญรุนแรงขึ้น เพราะการทำประมงด้วยวิธีนี้ นอกจากจะทำให้จับสัตว์น้ำวัยอ่อนแล้ว ยังดึงดูดสัตว์ทะเลชนิดอื่นๆ เช่น ฉลามและฉลามวาฬติดอวนขึ้นมาด้วย

เมื่อฉลามถูกจับพวกมันจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ทั้งตัว ไม่ใช่แค่ครีบเหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นทุกส่วน เช่น เนื้อ ตับ กระดูกอ่อน เป็นต้น โดยเฉพาะเนื้อฉลามที่เริ่มมีมูลค่ามากขึ้น ในแถบประเทศยุโรปและบราซิล เนื้อฉลามถูกนำไปใช้แทนปลาชนิดอื่นเนื่องจากจับปลาชนิดพันธุ์เป้าหมายได้น้อยลง ในประเทศไทยยังพบขนมสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมวที่ทำจากเนื้อและกระดูกฉลามในผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบอีกด้วย

Overfishing - WildAid - 002

ฉลามมีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล ช่วยรักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหารและควบคุมประชากรสัตว์น้ำอื่นๆ หากฉลามหายไประบบนิเวศอาจถูกทำลาย เราขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันไม่สนับสนุนทุกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากฉลาม และ ฉลองไม่ฉลาม ทุกโอกาส ทุกเทศกาล

บทความจาก Facebook: WildAid Thailand ช่วยสัตว์ป่า