ใช้ dive computer เมื่อไร? ตอนเรียนควรมีไหม? และมันดีกว่า dive table ยังไง?
dive computer คืออะไร?
อุปกรณ์ดำน้ำที่คอยคำนวณข้อมูลสำคัญของการดำน้ำแบบเรียลไทม์ เช่น
- ความลึกขณะนั้น current depth
- เวลาใต้น้ำตั้งเริ่มต้นลงดำน้ำ dive time
- No-Decompression Limit (NDL) เวลาใต้น้ำที่เหลือ ณ ความลึกนั้น โดยคำนวณจากการดูดซึมไนโตรเจนจากความลึกที่ผ่านมา ความลึกขณะนั้น และประเภทอากาศที่นักดำน้ำหายใจเข้าไป
- การสะสมไนโตรเจนในร่างกาย
- บอกเวลา และความลึกในการ safety stop
- ในกรณีอยู่เกินเวลาหมด เวลา NDL เข้าสู่โหมด Decompression Stop คำนวณความลึกที่เหมาะสม และเวลาที่ต้องอยู่ในความลึกนั้น เพื่อคายก๊าซไนโตรเจนออกจากเนื้อเยื่อต่างๆ ในร่างกาย
- ความเร็วในการเปลี่ยนความลึก ขึ้นจากน้ำ Ascent Rates
ทั้งหมดนี้ทำเพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำ และลดความเสี่ยง DCS (โรคนักดำน้ำ)
ควรใช้ dive computer เมื่อไร?
ทุกครั้งที่ดำน้ำ fun dive หรือ advanced training ขึ้นไปเพราะเป็นการลงน้ำลึกหรือหลายไดฟ์ mutli-dives ในวันเดียว ข้อมูลแบบเรียลไทม์จาก dive computer ช่วยให้การตัดสินใจระหว่างดำน้ำปลอดภัยกว่า
ตอนเรียน Open Water ต้องมีไหม?
- ไม่จำเป็นต้องซื้อเองทันที (ถ้าหลักสูตรมีให้ยืมใช้ระหว่างเรียนก็จะดีมาก)
- แต่ถ้ามีโอกาสเริ่มต้นด้วย dive computer จะดีที่สุด เพราะคุณจะได้ฝึกใช้ตั้งแต่ต้น จนกลายเป็นนิสัยที่ดี ควรปรึกษาและสอบถามครูว่าข้อมูลต่างๆ ใช้ทำอะไร มีผลอย่างไร
- ปัจจุบันหลายสถาบัน เช่น PADI, SSI, CMAS, SDI, RAID มีหลักสูตรที่สอนการใช้ dive computer ตั้งแต่ Open Water แล้ว – สอบถามกับครูผู้สอนอีกครั้ง
dive computer ดีกว่า dive table อย่างไร?
ข้อดีของการใช้ dive computer
- คำนวณเวลาดำน้ำอัตโนมัติ ไม่ต้องนั่งกาง dive table ให้ยุ่งยาก
- บันทึกข้อมูลการดำน้ำย้อนหลังได้ ทั้งความลึก, เวลาใต้น้ำ, อุณหภูมิ ฯลฯ
- ปลอดภัยมากขึ้น เตือนเมื่อใกล้เกิน NDL, ขึ้นเร็วเกินไป, หรือลืม safety stop
- ปรับตามการดำน้ำจริงแบบเรียลไทม์ ไม่ใช่แค่การวางแผนล่วงหน้า แต่คำนวณจากสิ่งที่เราทำจริง
- ใช้งานสะดวก ใส่เหมือนนาฬิกา ข้อมูลครบอยู่ที่ข้อมือ ไม่ต้องพกหลายชิ้น
ข้อเสียของการใช้ dive table
- พึ่งพาแบตเตอรี่ ถ้าแบตหมดกลางทริป เสี่ยงมาก ต้องมีสำรองหรือรู้แผน B
- ราคาค่อนข้างสูง รุ่นเบสิคเริ่มต้นหลายพันถึงหลักหมื่น
- บางรุ่นตั้งค่าซับซ้อน มือใหม่ต้องศึกษาวิธีใช้งานก่อนให้คล่อง
- ต้องบำรุงรักษา เช่น เปลี่ยนแบต, อัปเดตซอฟต์แวร์, รักษาความกันน้ำ
แนะนำ dive computer สำหรับนักดำน้ำทุกระดับ
ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นราคาย่อมเยา ไปจนถึงรุ่นท็อปที่มืออาชีพใช้กัน โดยแยกตามสไตล์การใช้งานและงบประมาณ เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น (ไม่ใช้ตารางให้รกสายตา)
1. รุ่นเริ่มต้น ราคาย่อมเยา (low budget – มือใหม่ใช้งานง่าย)
เหมาะสำหรับนักดำน้ำที่เพิ่งเริ่มต้น ต้องการความเรียบง่าย เช็ก NDL ง่ายๆ ใต้น้ำ
- Cressi Leonardo
หน้าจอใหญ่ ชัด อ่านง่าย มีฟังก์ชันพื้นฐานครบ ใช้งานได้ยาวนาน
ราคา: ประมาณ 6,500 – 8,000 บาท - Aqualung i100
โหมดดำน้ำครบ (Air, Nitrox, Gauge) มีฟังก์ชันหยุดพักก่อนบิน
ราคา: 7,000 – 9,000 บาท
2. รุ่นกลางยอดนิยม (mid-range – ดำน้ำบ่อย, อยากได้มากกว่าพื้นฐาน)
เหมาะกับคนดำน้ำหลายทริปต่อปี อยากมีฟีเจอร์เพิ่มขึ้น เช่น multi-gas, ตั้งเตือนล่วงหน้า
- Suunto Zoop Novo
ดีไซน์แข็งแรง ทนทาน หน้าจอชัดดี มี backlight ใช้แบตเปลี่ยนเองได้
ราคา: 9,500 – 12,000 บาท - Shearwater Peregrine
หน้าจอสี สว่างมาก ฟีเจอร์ล้ำในราคาดี ใช้ interface ลื่นมาก
ราคา: 15,000 – 18,000 บาท
3. รุ่นขั้นสูง / มืออาชีพ (pro level – สำหรับ dive master, instructor, tech diver)
เหมาะกับคนดำน้ำลึก, ดำหลายครั้งต่อวัน หรือใช้กับ Nitrox/Trimix และต้องการข้อมูลแม่นยำสูง
- Garmin Descent Mk2/Mk2i
เป็นทั้ง dive computer + smartwatch, มี GPS, แสดงแผนที่ dive log พร้อม sensor เต็มรูปแบบ
ราคา: 40,000 – 55,000 บาท - Shearwater Teric
หน้าจอ AMOLED สุดสว่าง, ใช้ได้กับ Air, Nitrox, Trimix, CCR มี AI สำหรับ air integration
ราคา: 45,000 – 60,000 บาท
หมายเหตุจากคนใช้งานจริง
- มือใหม่ใช้รุ่นเริ่มต้นก็เพียงพอ หากดำน้ำเพื่อความสนุก
- ถ้าเริ่มออกทริปดำน้ำบ่อย/มีแผนจะเรียนขั้น Advance แนะนำลงทุนกับรุ่น mid-range ขึ้นไป
- รุ่นท็อปไม่จำเป็นต้องรีบซื้อถ้ายังไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ลึกๆ
สรุป: มือใหม่ควรมีไหม?
แนะนำว่าควรมีโดยเฉพาะถ้าคิดจะดำน้ำต่อเนื่อง เพราะ dive computer เพิ่มความปลอดภัยในการดำน้ำได้มาก และช่วยให้คุณเรียนรู้การวางแผนและประเมินตนเองได้แม่นยำ
แชร์จากประสบการณ์จริง ไปเรียนรู้โลกใต้น้ำที่แสมสารอย่างปลอดภัย
บทความจาก Facebook: The Shark Diving